
เปิด 10 เหตุผล ทำไมชาวเน็ตเทใจ-ไว้ใจ ให้เพจดาร์ก ทำหน้าที่เผยแพร่-ตีแผ่ทุกด้านมืดของสังคม ที่สื่อไม่เคยเอื้อมถึง ทั้งยัง จุดกระแส เพื่อให้สื่อมวลชน ขุดคุ้ย หรือ ที่เคยหมกเม็ด ก็ปกปิดต่อไปไม่ได้แล้ว
หลายคนที่ชอบท่องโลกอินเทอร์เน็ต เสพสื่อจากโซเชียล ส่วนใหญ่ต้องเคยผ่านตากับเหล่าเพจที่เรียกตัวเองว่าเพจสายดาร์ก ที่ทำหน้าที่คอยเผยแพร่ข้อมูล ที่เรียกได้ว่าสื่อใหญ่ ๆ ไม่เคยแตะต้อง เอื้อมถึง หรือมองเห็น ซึ่งชาวเน็ตก็เริ่มให้ความสนใจกับเพจสายดาร์ก ทั้งยังไว้วางใจส่งต่อข้อมูล และเผยแพร่ข่าวสาร ที่สื่อใหญ่ไม่ทำ หรือไม่กล้าทำ
โดยเรื่องนี้วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสื่อสาธารณะ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Time Chuastapanasiri โดยเขียนบทความวิเคราะห์ว่า เพจดาร์ก ? คืออะไร ทำไมน่าสนใจ และเป็นที่นิยม ที่เผลอ ๆ จะมากกว่าสื่อมวลชนเสียอีก โดยข้อความทั้งหมด มีดังนี้
เพจดาร์ก? คืออะไร ทำไมน่าสนใจ
สมควรวิเคราะห์ "เพจสายดาร์ก" เอาไว้สักนิด ว่าเหตุผลใดจึงเป็นที่นิยม และไว้วางใจจากประชาชนจำนวนมาก เผลอๆ มากกว่าเพจสื่อมวลชนเสียอีก
ลักษณะของเพจดาร์ก น่าจะมี 3 ข้อ คือ เพจที่แอดมินไม่เปิดเผยอัตลักษณ์, เป็นคนจริงๆ ที่สร้างตัวละครสมมุติ และ มักโพสต์เนื้อหาที่รุนแรง ดราม่า เป็นกระแส โดยเฉพาะมีเป้าหมายเพื่อจุดประเด็นทางสังคม
เหตุผลที่เพจดาร์กเป็นที่ไว้วางใจ และ นิยมมากขึ้น เป็นเพราะ
1. ประชาชนรู้สึกไว้วางใจ พึ่งพาได้ : เพราะองค์กรสื่อ สื่อมวลชน เป็นสถาบันที่ดำรงอยู่ได้ เพราะผลประโยชน์ และต้องรักษาความสัมพันธ์กับองค์กรข่าว แหล่งข่าว (ยอมความกันได้ และ อาจถูกฟ้องร้องจากกฎหมายหมิ่นประมาทได้)
สื่อมีกระบวนการตรวจสอบ การบรรณาธิการ หากประชาชนส่งข้อมูลไปแล้ว สื่อไม่ลง (เพราะเหตุผลหลายอย่าง เช่น องค์กรสื่อ มีธง มีสายสัมพันธ์ทางอำนาจและผลประโยชน์ต้องปกป้องพิทักษ์เอาไว้เพื่อสร้างรายได้และกำไร) ทำให้ประชาชนเริ่มหมดหวังกับการมองสื่อเป็นที่พึ่ง แต่เพจเหล่านี้ ทำด้วยความสมัครใจ เพราะอยากช่วยและมองเห็นความไม่ถูกต้อง มองเห็นความเดือดร้อน และคนที่ถูกรังแก ความรู้สึก "อยากช่วย" นี้ จึงบริสุทธิ์และทรงพลัง ทำให้ผู้คนศรัทธา
(แต่ก่อนสื่อก็ทำ แต่หลังๆ สื่อกลายเป็นองค์กร ที่มีแต่ผลประโยชน์ และการเลือกข้างมากเกินไป ไม่ค่อยยืนอยู่ข้างประชาชน และหลังๆ องค์กรสื่อ กลายเป็นกระบอกเสียงของชนชั้นนำ พรรคการเมือง ลัทธิ ความเชื่อของนายทุนมากไป)
2. ความเป็นนิรนาม : เพราะแอดมินไม่เปิดเผยตัวตน นั่นทำให้คนที่มาขอความช่วยเหลือไว้วางใจ ในแนวคิดของเพจ มากกว่า การประเมินความน่าเชื่อถือของคนทำเพจ และความน่าไว้วางใจ มาจาก "บรรยากาศของเพจ" ที่ลูกเพจ และสมาชิก คนอ่าน นิยมชมชอบ หรือแสดงความคิดเห็นโต้ตอบ วิพากษ์เจ้าของเพจได้อย่างเสรี
เพจเหล่านี้ "สนใจแค่ว่า" คนที่ส่งข้อมูลมา น่าเชื่อถือเพียงพอจากหลักฐาน และจะ "ปกปิดอัตลักษณ์" ของผู้ชี้เบาะแส หรือแจ้งข้อมูลมาเหมือนกัน (ต่างคน ต่างนิรนาม ในตลาดมืดของข้อมูล) ทำให้สามารถมอบความไว้วางใจซึ่งกันและกันได้
3. การใช้ภาษาตรงไปตรงมา หยาบคาย : เพราะภาษาหยาบคาย ทำให้บรรยากาศการสนทนาสื่อสาร "ดูเป็นกันเอง เท่าเทียมกัน" ไม่มีชนชั้น ไม่มีระดับทางสังคม และดูจริงใจ เท่าเทียมเสมอภาคกัน
4. เพจไม่รีรอที่จะโพสต์ช่วยลูกเพจ หรือ คนที่ส่งข้อมูลความเดือดร้อนมาให้หลังไมค์ : เพราะคนทำ ไม่ต้องรอพื้นที่ข่าว ไม่ต้องรอปิดหน้าหนึ่งเหมือนหนังสือพิมพ์ หากข้อมูลที่ได้มามีความจริง น่าเชื่อถือ เป็นหลักฐานชัดเจน เพจก็ใส่ข้อมูลเลยทันที เพื่อเจตนาช่วยเหลือโดยไม่รีรอ
5. การระดมตรวจสอบข้อมูล : เพจเหล่านี้ ใช้แนวคิด "สังคมร่วมกันตรวจสอบ สอดส่อง" ทำให้เพจมี "ศักยภาพจากสมาชิก" ค่อนข้างมาก เพราะลูกเพจเหล่านี้เปรียบเสมือน สายตา คอยสอดส่อง เสาะหา ตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร เงื่อนงำต่างๆ มาให้แอดมิน ตรงกับแนวคิด "ปัญญาชนรวมหมู่" (crowd-sourcing) ซึ่งชาวเน็ตจะระดมสรรพกำลัง เวลา และความเห็นใส่ลงไปในเพจโดยไม่มีใครมายับยั้งได้
6. รู้จุดยืนแน่ชัดแล้วก่อนเข้าร่วม : เพจเป็นคน มีความคิด และจุดยืนทางการเมือง สังคม แน่ชัด ผู้คนจะชอบ เพราะไม่ต้องมาลังเล หรือสงสัยในตัวเพจ ดังนั้น จึงทำให้ทิศทางการโพสต์ มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่เล่นสองข้าง ไม่แทงกั๊ก และไม่ประนีประนอม ผู้คนส่วนใหญ่ในอินเทอร์เน็ตนั้น "พร้อมที่จะเลือกข้างเสมอ ๆ" ดังนั้นเพจใดก็ตามที่มีจุดยืนชัดเจน ก็ย่อมที่จะทำให้ลูกเพจเลือกกดสมัครติดตามได้ไม่ยาก
7. จับอารมณ์ชนชั้นกลางได้แม่นยำ : เท่าที่ดู คนทำเพจเหล่านี้ มีอาชีพ รายได้ ฐานะทางการเงินมั่นคง และเป็นชนชั้นกลาง ที่อยู่กับข้อมูลข่าวสารมาก เก่งการใช้สื่อและโซเชี่ยลมีเดีย ที่สำคัญ คือ จับอารมณ์ ตรรกะ มุมมอง และค่านิยมทางศีลธรรม จริยธรรมของชนชั้นกลางได้ (คือ เรื่อง ความเท่าเทียม การปฏิบัติตามกฎหมาย ความยุติธรรม และความถูกต้อง)
8. มีการสื่อสารสองทาง : เพจพวกนี้ มักสื่อสารกับลูกเพจตลอดเวลา (ไม่เหมือนเพจองค์กรสื่อ ที่แอดมินมักไม่ตอบ และเน้นการสื่อข่าวทางเดียว) ทำให้เพจเหล่านี้มีระดับความมีปฏิสัมพันธ์สูงมาก (จากการ engagement & interaction)
9. ประชาชนไม่ไว้ใจหน่วยงานรัฐ (ตำรวจ และเจ้าหน้าที่) : หลาย ๆ เรื่อง เป็นที่มาของความดราม่า จากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ล่าช้า ไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม ต่อเจ้าทุกข์ และสื่อมวลชนก็ไม่นำเสนอเรื่องนี้ ทำให้ความไว้วางใจ มีให้เพจเหล่านี้ (เพราะยืนยันด้วย ประวัติการโพสต์ การนำเสนอของเพจ) ที่สำคัญ เวลา เพจโพสต์ผิดไป เพจจะขอโทษ เพราะไม่มีหน้าตา ชื่อเสียงทางสังคม ต้องแบกรับ ทำให้คนรู้สึกพึ่งพิงได้มากกว่าหน่วยงานของรัฐ
10. จุดประเด็นติดก็พอแล้ว : เป้าหมายของเพจนี้ คือ การจุดประเด็น กระแส ที่ดูเหมือนจะมอด ดับหายไปในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน หรือจมหายไปกับกระบวนการยุติธรรมของสังคมไทย ที่เอาแน่เอานอน เชื่อถือไม่ได้
ดังนั้นการโพสต์ (ด้วยข้อมูลที่แอดมินของเพจมี) และด้วย กระแสการถล่มยอดไลค์ แสดงความเห็น และกระหน่ำแชร์ จึงทำให้มัน "จุดกระแสติด" บนหน้านิวส์ฟีด ไทม์ไลน์ และนั่นก็มากพอที่จะ "ฝากประเด็นต่อ" ให้กับสื่อมวลชนไปสืบ ขุดคุ้ย หรือ ที่เคยปิดหมกเม็ด ก็ปกปิดต่อไปไม่ได้แล้ว
นี่คือ 10 เหตุผลว่าทำไม ที่เพจสายดาร์ก "ได้รับความนิยม" และไว้วางใจจากชาวเน็ตมากกว่าเพจอื่น ๆ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Time Chuastapanasiri






