วันที่ 2 มิถุนายน 2560 สำนักข่าวบีบีซี มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศว่า สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ปี 2558 ซึ่งมีเนื้อหาว่าด้วยความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นภาระถ่วงดุลทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้สหรัฐฯ ต้องสูญเสียรายได้ไปกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 102 ล้านล้านบาท
การประกาศถอนตัวจากข้อตกลงปารีสนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกับแนวทางการพัฒนาประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ตามที่เขาเคยกล่าวไว้ในช่วงหาเสียง โดยเขาให้สัญญากับประชาชนว่าจะเพิ่มการผลิตในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและถ่านหินเพื่อให้เกิดการจ้างงานและขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวนอกจากจะถ่วงดุลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แล้ว มันยังเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศคู่แข่งอย่างจีน และอินเดียอีกด้วย
"เพื่อเป็นการทำตามหน้าที่ของผมในการปกป้องประเทศนี้ และประชาชนทุกคน สหรัฐอเมริกาจะถอนตัวออกจากอนุสัญญาปารีส และจะทำการหารือเพื่อร่างข้อตกลงใหม่ ที่มีเงื่อนไขที่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ เราไม่ต้องการให้ชาติอื่น ๆ และผู้นำของพวกเขาหัวเราะเยาะเราได้ และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ทำเช่นนั้น ผมถูกเลือกตั้งมาเป็นประธานาธิบดีของพิตต์สเบิร์ก (เมืองใหญ่ของรัฐเพนซิลเวเนีย) ไม่ใช่ปารีส ข้อตกลงอะไรก็ตามที่ไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐฯ ผมจะยกเลิกมัน หรือไม่ก็เจรจาเพื่อเขียนมันขึ้นมาใหม่ และข้อตกลงด้านการค้าต่าง ๆ จะถูกเจรจาใหม่อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้" ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าว
การถอนตัวจากข้อตกลงลดปัญหาโลกร้อนของสหรัฐฯ ได้สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย และมันจะสร้างผลกระทบไปเป็นวงกว้าง โดยผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาวิเคราะห์ว่า เมื่อไม่มีสหรัฐฯ อยู่ในข้อตกลง การที่ประเทศอื่น ๆ จะรักษามาตรฐานให้เป็นไปตามข้อกำหนดจะเป็นเรื่องที่ยากมาก นอกจากนี้ 15 เปอร์เซ็นต์ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกสู่โลก ก็มาจากสหรัฐฯ อีกด้วย
โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือกันเพื่อช่วยโลกใบนี้ และหาทางออกใหม่ ๆ เพื่อช่วยกันแก้ไขรับมือกับปัญหาภาวะโลกร้อน โดยระบุว่านักวิทยาศาสตร์ นักลงทุน และประชาชนชาวสหรัฐฯ ที่ผิดหวังในการตัดสินใจของผู้นำของพวกเขานั้น ฝรั่งเศสยินดีอ้าแขนต้อนรับพวกเขาทุกคน และได้กล่าวเสียดสีประโยคเด็ดที่เป็นสโลแกนหาเสียงของประธานาธิบทรัมป์ที่ว่า "Make America Great Again" (ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง) ด้วยประโยคว่า "Make our planet great again" (ทำให้โลกของเรายิ่งใหญ่อีกครั้ง)
"ผมยินดีต้อนรับทุกคนให้มาร่วมทำงานกับเรา เพื่อช่วยกันหาวิธีแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ และปกป้องสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้ ผมให้สัญญาว่าฝรั่งเศสจะไม่ยุติการต่อสู้อย่างแน่นอน ผมอยากให้ทุกคนจงมั่นใจ เราจะประสบความสำเร็จไปได้เมื่อเราร่วมมือกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณจะอยู่ที่ไหน เราทุกคนล้วนมีความรับผิดชอบร่วมกัน ทำให้โลกของเรายิ่งใหญ่อีกครั้ง" ประธานาธิบดีมาครง กล่าว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสอย่างเป็นทางการเมื่อใด แต่คาดว่ากระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลานานถึง 4 ปี
ภาพจาก SAUL LOEB / AFP