
สองนักศึกษาม.เอเชียอาคเนย์
คว้ารางวัลชนะเลิศ ICDL
Digital Challenge 2017
เป็นตัวแทนประเทศไทย
เข้าแข่งขันระดับโลก
นักศึกษามหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ เป็นตัวแทนประเทศไทยผ่านเข้าไปแข่งขัน ICDL Digital Challenge 2017 ในระดับนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์ หลังคว้ารางวัลชนะเลิศพร้อมกันถึง 2 คน เผยการแข่งขัน ICDL จะช่วยยกระดับความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเพิ่มขีดความสามารถการใช้คอมพิวเตอร์ และพัฒนานักศึกษาให้มีทักษะทางด้านไอทีและภาษาอังกฤษ สามารถนำไปใช้งานจริงได้ และถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะให้นักศึกษาแสดงศักยภาพและเป็นโอกาสที่ดีที่จะพัฒนาตัวเองควบคู่ไปกับการแข่งขันทั้งระดับในประเทศและนานาชาติ
นายฉัททวุฒิ พีชผล
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ (SAU) กล่าวว่า "มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ได้ส่งนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขัน ICDL
Digital Challenge 2017
เพื่อหาตัวแทนของไทยไปแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์
ซึ่งจากการแข่งขันครั้งนี้ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ถึง 2 คน ได้แก่
นางสาวปิยะมาศ สมพันธ์แพ และนายทัศพันธุ์ งามสมพรพงศ์
นักศึกษาสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศเหรียญทอง
ประเภทความรู้ทักษะดิจิทัล โดยนักศึกษาทั้งสองคนจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์
ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2017 นี้ สำหรับการแข่งขัน ICDL Digital Challenge 2017 ในระดับประเทศในปีนี้
และยังมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอเชียอาคเนย์
ที่ได้รับรางวัลเพิ่มเติมจากการแข่งขัน
ได้แก่ รองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญเงิน คือ
นางสาวสุปาณี วันชะนะ นักศึกษาสาขาวิชาทรัพยากรมนุษย์ คณะบริหารธุรกิจ และรองชนะเลิศอันดับ 2 เหรียญทองแดง ได้แก่
นางสาวเกษจราภรณ์ เจริญศิลาวาทย์ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอเชียอาคเนย์ โดยเรา
มุ่งผลิตบัณฑิตให้มีความสามารถทำงานได้จริง ทักษะในด้านไอทีจะมีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งในปัจจุบัน ทาง SAUได้ใช้เกณฑ์มาตรฐานสากล ICDL (International Computer
Driving Licence) ให้นักศึกษาทุกคนต้องเรียนและสอบเพื่อให้ผู้ใช้บัณฑิตมีความมั่นใจว่านักศึกษาที่จบจาก
ม.เอเชียอาคเนย์ จะมีความสามารถในการใช้ระบบ ไอทีพื้นฐานได้อย่างดี โดย ICDLนี้เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกมากกว่า 148 ประเทศ
และยังได้รับการลงนามรับรองโดยหน่วยงาน รัฐบาล และสมาคมด้านคอมพิวเตอร์
รวมทั้งสหประชาชาติ ยูเนสโก และบริษัทชั้นนำต่าง ๆ
ซึ่งมาตรฐานนี้เปรียบเสมือนใบรับรองที่ออกโดยหน่วยงานระดับโลกที่ได้รับการยอมรับถึงความเที่ยงตรงในการวัดผลความรู้และความสามารถในการใช้งานระบบไอทีของนักศึกษา
ทางมหาวิทยาลัยมองเห็นว่ามาตรฐานนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพและให้ความมั่นใจแก่ผู้ใช้บัณฑิตทุกสาขาวิชาในอนาคตได้อย่างดี
จึงมุ่งทุ่มทรัพยากรอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนานักศึกษา ให้มีความพร้อมต่อการทำงานของนักศึกษาในโลกอนาคตอย่างแท้จริง







