โชเฟอร์แท็กซี่บีบน้ำตาเล่าชีวิตดราม่า บอกคงได้ขับเป็นวันสุดท้าย แถมเมียพิการ มีลูกต้องเลี้ยงดูอีก 2 คน ผู้โดยสารสงสารจับใจช่วยไป 3,000 บาท แต่สุดท้ายมาพบว่าถูกหลอก ใครเลยจะคิดว่านอกจากปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร พูดจาไม่สุภาพ-ไล่ลงรถแล้ว ยังมีขั้นกว่าที่นอกจากจะทำให้หัวเสียแล้ว ยังต้องเสียเงินในกระเป๋าเพราะหลงกลอีกด้วย
อย่างเช่นกรณีของผู้โดยสารรายนี้
ที่มาบอกเล่าเรื่องราวมิจฉาชีพในคราบแท็กซี่ผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว Pui
Wannipa Nakwattana เมื่อวันที่
26 มิถุนายน 2560 โดยเธอระบุว่า
เจอแท็กซี่ตีบทเศร้าว่าเราจะเป็นผู้โดยสารคนสุดท้ายแล้ว
เพราะทางอู่เรียกเก็บเงินประกันจากคนขับ 3,000 บาท
ซึ่งตอนนี้ตัวเขาเองไม่มีเงินแม้จะเติมน้ำมันเลยด้วยซ้ำ
แถมชีวิตยังยากลำบาก มีภรรยาพิการ ต้องคอยไปรับยาสัปดาห์ละ 800 บาท
และมีลูกแฝดวัย 9 ขวบ 2 คน ที่ต้องดูแล
หลังจากนี้ก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร เพราะไม่มีความรู้
ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน่าสงสาร
แฟนของเธอจึงตัดสินใจลงไปกดเงินช่วยเหลือไป 3,000 บาท... แต่แล้วก็มาพบกับความจริงในโลกออนไลน์ว่า
เคยมีคนเจอแท็กซี่รายนี้เล่าเรื่องราวแบบเดียวกันนี้เพื่อดูดเงินจากผู้โดยสารมาแล้ว
และยังมีคนมาให้เบาะแสเพิ่มเติมด้วยว่า เคยเจอมาเหมือนกัน ตั้งแต่ประมาณ 4
ปีก่อน
และล่าสุด (27 มิถุนายน)
เจ้าของเรื่องยังบอกด้วยว่า
เมื่อเช้านี้แท็กซี่คนนี้ยังไปทำแบบเดิมอยู่เลยแถวทองหล่อค่ะ
ระวังกันหน่อยนะคะ เรื่องถึง ผอ.กรมการขนส่งทางบก แล้วค่ะ น่าจะเร่งตามจับในเร็ว ๆ
นี้ค่ะ
อย่างไรก็ดีภายหลังที่เรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไป
คุณเจ ผู้เสียหาย ก็ได้มาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี
ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า
"ผมก็ยังยืนยันว่าการช่วยเหลือคนเป็นสิ่งที่ดี ในสังคมยังมีคนด้อยโอกาส
คนที่รอคอยความช่วยเหลืออยู่เยอะมาก แต่ ณ วันนี้
เราอาจจะต้องรอบคอบมากขึ้น อาจจะต้องเสียเวลากับมันหน่อย คือฟังหูไว้หู
ต่อให้น่าสงสารก็จริง แต่อาจจะต้องเช็กข้อมูลว่า เงินที่เรากำลังจะให้
หรือความช่วยเหลือที่เรากำลังจะส่งไป มันถึงจริงหรือเปล่า
แล้วมันใช่อย่างที่เขาพูด เขาอ้าง หรือไม่" รายงานระบุด้วยว่า
กรมการขนส่งทางบก ได้รับทราบเรื่องแล้ว เบื้องต้นทราบสีรถและทะเบียนรถ
ยอมรับว่าติดตามตัวยาก แต่ก็จะเร่งติดตามตัวต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Pui Wannipa Nakwattana,
รายการทุบโต๊ะข่าว