
วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว กว่า 50 นาย นำตัวนายชัยพัฒน์ กลิ่นสุคนธ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราและชิงทรัพย์ ไปชี้จุดก่อเหตุ บริเวณเลียบถนนกาญจนาภิเษกขาออก มุ่งหน้าไปลำลูกกา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม.
สืบเนื่องจากช่วงกลางดึกของวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเป็นสาวชาวจีนวัย 42 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกคนขับแท็กซี่ก่อเหตุข่มขืนจนร่างกายบอบช้ำ พร้อมทั้งถูกชิงทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสดอีก 2,000 บาทไปด้วย ก่อนจะถูกปล่อยทิ้งไว้กลางทาง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า เป็นฝีมือของนายชัยพัฒน์ โชเฟอร์รถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง เจ้าหน้าที่จึงบุกไปรวบตัวถึงที่พัก
โดยนายชัยพัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้รับผู้เสียหายจากป้ายรถเมล์ปากซอยนวมินทร์ 103 เพื่อเดินทางไปยังซอยนวลจันทร์ 32 เมื่อเห็นรูปร่างผิวพรรณของผู้เสียหายรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมา จึงเปลี่ยนขับออกนอกเส้นทางไปยังถนนเกษตร-นวมินทร์ ทำให้เหยื่อสาวเอะใจรีบเปิดดูจีพีเอส ตนกลัวความแตกเลยแย่งโทรศัพท์ พร้อมชักมีดขู่ให้ยินยอม จากนั้นก็ขับขึ้นทางด่วนรามอินทราไปยังถนนจตุโชติ ก่อนจะเลี้ยวมาถึงจุดเกิดเหตุ และลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ พร้อมชิงเงินสดไปด้วย
ทั้งนี้จากการขยายผลพบว่า รถแท็กซี่ที่นายชัยพัฒน์ใช้ก่อเหตุนั้น เป็นรถที่ขโมยมาจากปั๊มเอสโซ่ เซียร์ รังสิต ซึ่งมี นายเฉลิมชัย ลีคันทมาศ อายุ 57 ปี เจ้าของรถแจ้งหายไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา และนายชัยพัฒน์ได้สวมทะเบียนปลอม เลขทะเบียน 1มข 2704 กรุงเทพ ซึ่งเป็นทะเบียนของ นายธนากร เพ็ญศรี อายุ 55 ปี จากนั้นก็เอารถคันนี้ไปก่อเหตุอีกหลายครั้ง ดังนี้
- ครั้งที่ 2 ก่อเหตุลักทรัพย์ชุดอุปกรณ์แต่งรถ ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- ครั้งที่ 3 การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีหนังสือมาให้เจ้าของรถทะเบียน 1 มข 2704 กรุงเทพ ให้ชำระค่าทางด่วน พร้อมทั้งค่าปรับ หลังพบว่าไม่ยอมชำระค่าทางด่วน บริเวณด่วนบรูพาวิธีเป็นเงิน 20 บาท
นอกจากนี้ยังพบว่านายชัยพัฒน์ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์และลวนลามลูกค้าสาวอีกหลายครั้ง หากใครรู้ตัวว่าเป็นเจ้าทุกข์สามารถไปชี้ตัวที่ สน.คันนายาว เพื่อเพิ่มข้อหาได้
ภาพจาก workpointtv
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







