สาว 19 ไลฟ์สยิวยันไม่ได้ขายตัว พ้อหากไม่เห็นเเก่เงิน ชีวิตคงไม่พัง

           น้องน้ำอ้อย สาวไลฟ์สดชุดนักเรียน ยันไม่ได้ขายบริการ จากนี้ขอกลับบ้านเตรียมนำพานพุ่มไปขอขมาครู ด้าน ผอ. เผยจบไปหลายปีแล้ว งงใส่ชุดนักเรียนทำไม

           ตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์เพียงชั่วข้ามคืน สำหรับคลิปสาวใส่ชุดนักเรียน ม.ปลาย ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้า ไลฟ์สด ให้ผู้ชายจับหน้าอก โดยสาวคนดังกล่าวได้ออกมาเปิดใจว่าที่ทำไปเพราะอยากได้เงิน ขอโทษสังคมและวอนโซเชียลอย่าด่าลามไปถึงครอบครัว ด้านแม่เผยว่า ไม่อยากเชื่อว่าคนในคลิปเป็นลูกสาว ยอมรับว่าเสียใจแต่ก็ให้อภัย (อ่านข่าว : แม่ร่ำไห้...หลังเห็นคลิปลูกสาวไลฟ์ชุดนักเรียน หวั่นลูกคิดสั้น วอนกลับบ้านเราเถอะ)

           น้องน้ำอ้อย เล่าต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เกิดเรื่อง ตนใส่ชุดนักเรียนเพื่อไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บังเอิญว่าฮันนี่ไลน์มาพอดีจึงไปเจอกันที่โรงแรม จากนั้นก็ตกลงคุยรายละเอียดกัน พอทราบว่าได้เงิน 2 หมื่น ตนจึงตกลง โดยมีการจ่ายเงินกันที่หน้าโรงแรมก่อน 1 หมื่นบาท หลังจากนั้นก็ขึ้นไปบนห้องแล้วทีมงานก็บอกกับตนว่าไม่ต้องถอดชุดนักเรียน แต่จะปิดชื่อโรงเรียน เอาหน้ากากปิดหน้าให้ และไม่รู้ว่าจะต้องมีการล้วงหน้าอก


           ทั้งนี้ในไลฟ์ที่มีการล้วงหน้าอกนั้น ตนก็ไม่ค่อยพอใจ หลังจากจบการไลฟ์จึงได้ขอให้ทีมงานลบคลิปดังกล่าวให้ ซึ่งทีมงานก็ลบคลิปให้ตนต่อหน้าก็คิดว่าจบ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าคลิปจะหลุดออกมา หลังจากเกิดเรื่องและกลายเป็นข่าว ฮันนี่ก็ติดต่อมาเพื่อขอโทษ ซึ่งตนก็บอกว่าทุกอย่างแย่ไปหมด หากวันนั้นไม่เห็นแก่เงิน ชีวิตคงไม่พัง แต่ตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ขอยืนยันว่าตนไม่ได้ขายบริการทางเพศ หลังจากนี้ก็จะกลับไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด และไม่เรียนที่กรุงเทพฯ แล้ว แล้วก็ไม่อยากให้โรงเรียนแจ้งความเอาผิด เพราะไม่มีเจตนาที่จะให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยจะเอาพานพุ่มไปกราบขอโทษครูที่โรงเรียน

           ขณะที่แม่ของน้องน้ำอ้อย บอกกับผู้สื่อข่าว  AMARIN TV ว่า ได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากลูกแล้ว โดยลูกบอกว่าคนที่จับหน้าอกเป็นเกย์ และจะไม่ทำอีกแล้ว ซึ่งสามีตนก็เครียดเพราะเชื่อว่าลูกสาวถูกหลอก


           ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า น้องน้ำอ้อยเคยเรียนที่นี่จริงแต่จบไปแล้วหลายปี ไม่ทราบวัตถุประสงค์ของเด็กเหมือนกันว่าใส่ชุดนักเรียนทำไม แล้วกำลังจะปรึกษากันระหว่างครูกับศิษย์เก่าหากทำให้โรงเรียนเสียหายอาจจะมีการฟ้องร้อง แต่มุมหนึ่งอยากขอให้สังคมยุติการแชร์ต่อ เพราะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่ายและกลัวว่าเด็กจะทำร้ายตัวเอง

           ขณะที่ พ.ต.อ. โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า อาจเข้าข่ายความผิดขัดศีลธรรมอันดีงาม คือไม่มีลักษณะของการแสดงออกถึงการร่วมเพศแต่ขัดศีลธรรม และต้องไปดูว่ามีคำพูดที่สื่อลามกอนาจารไหม แต่เท่าที่ดูก็ไม่ได้มี


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, รายการทุบโต๊ะข่าว