คนขับ ปอ.23 แจงคดีชน จยย. ทำเด็กพิการ ชี้อีกฝ่ายเฉี่ยวสามล้อ ไถลมาใต้รถเมล์ เผยกลัวทับจึงหักหลบให้ด้วยซ้ำ ด้าน ขสมก. เคลียร์ปมเก็บเงินคนเจ็บ
จากข่าวชวนสะเทือนใจ กรณี น.ส.ธัญชนก จอมพล หรือ น้องจุ๊บแจง อายุ 19 ปี และเพื่อนชาย ประสบอุบัติเหตุถูกรถโดยสารประจำทางทับ โดยน้องจุ๊บแจง พิการเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว และได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง จนที่บ้านต้องเป็นหนี้สินจากการรักษา ซ้ำยังถูกฝ่ายรถเมล์ทวงค่าเสียหายด้วยนั้น
(อ่านข่าว : ย่าร้องหลานสาวโดนรถเมล์ทับจนพิการ ซ้ำถูกเรียกค่าเสียหาย-ไม่ได้รับการเยียวยา)
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 รายการแมกาซีนข่าว
ได้พูดคุยกับ นายธนบูรณ์ ดอนทองคำ อายุ 58 ปี พนักงานขับรถเมล์ ปอ.23
คันที่เกิดเหตุ เล่าว่า ทำอาชีพนี้มากว่า 22 ปี
โดยวันเกิดเหตุก็ขับมาตามปกติ แต่ช่วงลงทางด่วนเพชรบุรี มุ่งหน้าแยกราชเทวี
สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ไปเฉี่ยวรถสามล้อไถลมาจากเลนฝั่งตรงข้าม
ตนจึงหักหลบ ทำให้รถเมล์พุ่งชนเสาและปีนทางเท้า
จากนั้นรถคนเจ็บจึงไถลมาอยู่ใต้รถ
ก่อนที่ตนจะลงมาดูคนเจ็บและโทร. แจ้งฝ่ายอุบัติเหตุของ ขสมก. ให้มาช่วยเหลือ
นายธนบูรณ์ กล่าวอีกว่า เหตุที่ตอนนั้นไม่ได้จอดในเลนซ้าย
เพราะมีรถแท็กซี่จอดยาวตลอดแนว
โดยหลังเกิดเหตุตนได้เดินทางไปเยี่ยมคนเจ็บทั้ง ขณะอยู่ในห้องไอซียู
และตอนที่ออกมาแล้ว ต่อมาได้มีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งที่ 2
โดยคุณย่าน้องจุ๊บแจง เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 4 ล้านบาท ทำให้ตนตกใจมาก ด้วยมั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์จึงขอสู้คดีในชั้นศาล
และอยากให้เพื่อนชายน้องจุ๊บแจง ออกมาพูดความจริงด้วย
ด้าน นายสมควร นาสนม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ 1 ยืนยันว่า
รถทุกคันของ ขสมก. มีประกันและ พ.ร.บ. คุ้มครองตามกฎหมาย หากคนขับผิดจริง
ก็มีการชดเชยเยียวยา ส่วนกรณีที่มีการเรียกค่าเสียหาย
ถือเป็นขั้นตอนของกฎหมายคดีแพ่ง
ซึ่งได้ฟ้องกับคนขับซึ่งเป็นเพื่อนน้องจุ๊บแจงโดยคดีจะหมดอายุความในวันที่ 6
กันยายน 2560 แล้ว ซึ่ง ขสมก. ไม่ได้กังวลเพราะเข้าใจความเดือดร้อน
ขณะเดียวกันก็เล็งให้ นายธนบูรณ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ขับรถ
โดยไปทำงานจุดอื่นก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
https://www.youtube.com/embed/jaV8j5y3obc?feature=oembed
ภาพและข้อมูลจาก
amarintv.com