ตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์เพียงชั่วข้ามคืน สำหรับคลิปสาว 19 ไลฟ์สดขณะใส่ชุดนักเรียน ม.ปลาย แล้วให้ผู้ชายคลึงหน้าอก จนก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างมากมาย ขณะที่ต่อมาเจ้าได้ออกมาเปิดใจว่าไม่ได้ขายตัว พร้อมทั้งตัดพ้อว่าหากไม่เห็นแก่เงิน ชีวิตคงไม่พัง หลังจากนี้ก็จะกลับไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด และไม่เรียนที่กรุงเทพฯ แล้ว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น (อ่านข่าว สาว 19 ไลฟ์สยิวยันไม่ได้ขายตัว พ้อหากไม่เห็นเเก่เงิน ชีวิตคงไม่พัง)
อย่างไรก็ดี ทางโรงเรียนยืนยันว่า มีมติจะไม่ฟ้องร้องใด ๆ แต่หลังจากนี้ถ้ายังมีการทำไม่เหมาะสมอีกก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ขณะที่แม่ของน้องน้ำอ้อย เผยว่า ทั้งครอบครัวสภาพจิตใจยังไม่ดีขึ้น พ่อแม่ยังไม่กล้าออกไปทำงาน โดยเฉพาะพ่อของน้องน้ำอ้อยเครียดมาก ไม่ยอมพูดจากับใคร ส่วนน้องชายของน้องน้ำอ้อยก็ไม่อยากไปโรงเรียน เนื่องจากกลัวว่ากลัวเพื่อนจะล้อ สำหรับเรื่องที่ลูกสาวกำลังจะเปิดเทอมนั้น ตนให้ไปดรอปก่อน เพราะห่วงสภาพจิตใจของลูก
ด้าน พ.ต.อ. โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ระบุว่า หลังจากดูคลิปวิดีโอของน้องน้ำอ้อย ยังไม่เข้าข่ายเป็นความผิดโดยตรง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะยังไม่ได้แก้ผ้า ทั้งยังพบว่าน้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ประสบการณ์น้อยทำให้ถูกชักชวนได้ง่าย อยากให้สังคมให้อภัยน้องน้ำอ้อย และขอให้หยุดเรื่องการขุดคุ้ย คนเราย่อมพลาดกันได้
พ.ต.อ. โอฬาร เผยต่อว่า พฤติการณ์ของทีมงานทั้ง 4 คน เข้าข่ายหลอกลวงพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร ตามมาตรา 284 เนื่องจากทีมงานเป็นคนตั้งกล้องถ่าย และผู้ชายในคลิปได้กระทำอนาจารต่อตัวน้อง ซึ่งตัวของน้องเองก็พยายามปกป้องตัวเอง แต่ในภาวะเช่นนั้นไม่อาจสู้หรือขัดขืนได้ ทั้งนี้ตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ในระหว่างดำเนินการรวบรวมหลักฐานอยู่
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี, รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
