ศาลอุทธรณ์ สั่งยืนตามศาลชั้นต้น จำหน่ายคดีปลอมเอกสารสิทธิไร่ส้ม ชี้เป็นการฟ้องซ้ำ ด้าน สรยุทธ รับเครียดไม่ได้ทำงาน มีคดีความติดตัว ยันไม่ทราบเจ้าหน้าที่แก้ไขสำเนาเอกสารรายการคุยคุ้ยข่าว
วันที่ 8 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตนักเล่าข่าวชื่อดัง ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อรับฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ พร้อมจำเลยรวม 3 ราย ได้แก่ น.ส.มณฑา ธีระเดช อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่บริษัท ไร่ส้ม และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อายุ 47 ปี อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในความผิดฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิใบคิวโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าว 139 แผ่น เพื่อไปยื่นให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นใบคิวโฆษณาที่แท้จริง เป็นผลให้จำเลยไม่ต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกิน ส่งผลให้บริษัท อสมท ได้รับความเสียหาย โดยเหตุเกิดเมื่อเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2559
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องแล้วเห็นว่าอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีซ้ำกับคดีกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นคดีหลัก ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนั้นอัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้อีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ แต่อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลรับคดีปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมไว้พิจารณาต่อ โดยอ้างว่าพฤติการณ์ปลอมเอกสารเกิดขึ้นภายหลังจากคดีติดสินบนและความผิดต่อหน้าที่ของพนักงานในองค์กร
อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่าทั้ง 2 คดีเป็นคดีที่มีความเกี่ยวพันกันมีเจตนาเดียวกัน เพื่อให้ไม่ต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกิน เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีหลักไปแล้ว ดังนั้นสิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องคดีนี้จึงมีอันต้องระงับไป เนื่องจากอุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ เนื่องจากเป็นการฟ้องซ้ำคดีเดิม
ส่วนกรณีหลักฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในวันที่ 29 สิงหาคม นี้
ด้านนายสรยุทธ เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเพราะมีเจ้าหน้าที่ อสมท ใช้ลิควิดไปแก้ไขใบคิวโฆษณา และเมื่อบริษัท อสมท ขอให้บริษัท ไร่ส้ม ส่งเอกสารไปให้ตรวจสอบ ทางบริษัทก็ส่งเอกสารจริงที่ไม่ได้มีรอยลบ เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ โดยไม่ทราบเลยว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นมีการแก้ไขสำเนาเอกสารที่เคยส่งไปในอดีต ทั้งนี้ยืนยันว่าการลบสำเนาดังกล่าวไม่สามารถปกปิดอะไรเลย เพราะในระบบมีเอกสารตัวจริงยืนยันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการโฆษณาเกินนั้นขอไม่ออกความคิดเห็น เพราะยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า วันที่ 29 สิงหาคม นี้ จะมาฟังคำตัดสิน และขณะนี้ตนเองกลับมาอยู่ กทม. แล้ว ส่วนบ้านที่เขาใหญ่ปลูกให้แม่พักผ่อน พร้อมยอมรับว่าคนที่อยู่ระหว่างการติดตามคดีก็มีความเครียดเป็นธรรมดา ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ทำงานทุกวันตามปกติไม่ต้องคิดอะไร แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำได้จึงเกิดความเครียดเป็นธรรมดา