จากคดีสะเทือนขวัญ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือ น้องพลอย อายุ 28 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2557 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ คือ นายพลกฤต วิเศษ อดีตแฟนหนุ่มของผู้ตาย และรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่าน้องพลอย โดยอำพรางศพเผานั่งยางในพื้นที่แก่งคอย จ.สระบุรี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 ตามที่เสนอข่าวไปนั้น (อ่านข่าว : เปิดคำสารภาพ อดีตสิบเอก ลักพาตัวน้องพลอย ฆ่าเผานั่งยาง 3 ปีก่อน)
โดยจากการสอบถามรุ่นพี่ในที่ทำงานของน้องพลอย เผยว่า ในวันเกิดเหตุ (21 พฤษภาคม 2557) น้องพลอยก็มาทำงานปกติ เมื่อเลิกงานก็ยังเห็นว่าน้องโทรศัพท์หาแม่ให้เตรียมข้าวไว้ให้ ซึ่งน้องไม่ค่อยนำเรื่องส่วนตัวมาคุยที่ทำงาน เพราะน้องก็เพิ่งย้ายมาที่โรงงานแห่งนี้ไม่ถึง 2 เดือน ทำให้ยังไม่มีเพื่อนที่สนิทมาก แต่ยืนยันว่าน้องเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
ขณะที่นางจินดา อารีรักษ์ วัย 65 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งตรงข้ามโรงงานที่น้องพลอยทำงาน ระบุว่า น้องพลอยเคยมาซื้ออาหารกับตนบ่อยครั้ง จนมาทราบเรื่องจากคนย่านนี้ว่าน้องพลอยถูกอุ้ม ส่วนตัวน้องพลอยเป็นคนเรียบร้อย พูดเสียงเบา แม่น้องพลอยยังเคยแซ็วตนว่า น้องพลอยน่าจะเป็นลูกตนมากกว่า เนื่องจากมีลักษณะการพูดที่คล้ายกัน พอได้ยินข่าวก็ตกใจ รู้สึกใจหายสงสารทั้งแม่และผู้ตาย เป็นเรื่องที่น่าสลดใจมาก
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายพลกฤต วิเศษ หรือ เอส อดีตนายทหารยศสิบเอก ผู้ต้องหาฆ่าน้องพลอย หลังก่อเหตุได้ออกจากราชการ ไปทำศัลยกรรมใบหน้าเพื่ออำพราง และไปสมัครงานเป็นนายแบบในบาร์แห่งหนึ่งที่พัทยา โดยผู้จัดการบาร์ ระบุว่า นายเอสเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่เคยบอกว่าเป็นทหารมาก่อน ซึ่งช่วงที่มาสมัครงานได้แจ้งชื่อว่า เอส มาจากต่างจังหวัด ไม่เคยทำงานประเภทนี้มาก่อน แต่มั่นใจในรูปร่างและหน้าตาจึงได้มาขอสมัครทำงาน ส่วนใหญ่จะดูแลลูกค้าต่างชาติ ไม่พบพิรุธแต่อย่างใด ซึ่งรู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าวว่าเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมน้องพลอย