ตกเป็นประเด็นพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ กรณีหญิงสาวแสบหลอกผู้ชายให้แต่งงานด้วย ก่อนเชิดเงินสินสอดหนีไป พร้อมทั้งก่อเหตุลักทรัพย์ โดยจะวนหาเหยื่อที่เป็นผู้ชายไปเรื่อย ๆ ซึ่งในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ชายตกเป็นเหยื่อถูกหลอกแต่งงานมากถึง 5 ราย และในจำนวนนี้ 4 ราย ถูกหลอกภายในเดือนเดียวกัน
นายประสารเล่าต่อว่า ตลอดระยะเวลานั้น มีการนัดเจอกันบ้าง ฝ่ายหญิงเคยพาตนไปดูสวนผลไม้ แต่ไม่เคยพาไปที่บ้าน ซึ่งเธออ้างว่าเพราะยังไม่แต่งงาน จึงเข้าบ้านไม่ได้ นอกจากนี้ เธอยังเคยพยายามบอกตนให้ขายบ้านพักที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และย้ายไปอยู่กับเธอที่จังหวัดหนองคาย โดยให้พ่อและแม่ของตนย้ายไปอยู่ด้วย ซึ่งตอนนั้นตนก็พยายามขอไปดูบ้านหลังนั้นก่อน แต่ฝ่ายหญิงกลับบ่ายเบี่ยงไม่ให้ไป จนสุดท้ายเธอก็บอกให้แต่งงานกันเลย ตนจึงบอกตกลง
งานแต่งงานของทั้งคู่ ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 นายประสารได้เตรียมสินสอดไว้เป็นเงินจำนวน 2 แสนบาท โดยไปเช่าพื้นที่รีสอร์ทริมทะเลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นพื้นที่จัดงาน ทว่าหลังจากแต่งงานได้เพียง 4 วัน ฝ่ายหญิงได้ขอตัวกลับบ้าน ไปทำธุระเรื่องธุรกิจ แต่หลังจากนั้นตนก็เริ่มติดต่อเธอไม่ได้ โทร. ไปไม่ค่อยรับ ทราบเรื่องอีกทีคือเธอให้หลานสาวโทร. มาบอกว่า เธอแท้งเพราะครรภ์เป็นพิษ พร้อมทั้งบอกว่าไม่ต้องติดต่อไปอีก
โดยนายประสาร เชื่อว่าช่วงเวลาที่ฝ่ายหญิงหายไปนั้น น่าจะกำลังไปหลอกลวงคนอื่นอีก ปัจจุบันเงินกู้ที่ตนกู้มารวมจำนวนกว่า 4 แสนบาท ยังใช้คืนไม่หมด ซึ่งตอนที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้เข้าแจ้งความ และไม่ได้เก็บหลักฐานข้อความการสนทนาไว้ เนื่องจากไม่คิดว่าตัวเองถูกหลอก รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกมาก
ขณะที่ทางด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด เผยว่า พฤติกรรมของหญิงสาวรายดังกล่าวเข้าข่ายหลอกหลวง ถือเป็นการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง รวมไปถึงพ่อและแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ของหญิงสาวรายดังกล่าว หากรู้เห็นเป็นใจด้วยกัน และมีการจัดแต่งงานกับเหยื่อรายอื่นในลักษณะเดียวกันนี้ แสดงว่ารู้เห็นเป็นใจ จะมีความผิดเข้าข่ายร่วมกันฉ้อโกง และจะได้รับโทษโดยเท่ากัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม