จากกรณีที่นางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ น้ำมนต์ หรือพร ได้หลอกลวงชายหนุ่มแต่งงาน ก่อนเชิดเงินสินสอด จนกลายเป็นข่าวดังในช่วงหลังนั้น กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดยเจ้าตัวให้การยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงผู้ชายให้แต่งงานด้วย (อ่านข่าว : น้ำมนต์ ยันไม่มีเจตนาหลอกแต่งงาน ด้านว่าที่เจ้าบ่าว ยันไม่ให้อภัย เล็งบวชล้างซวย)
ความคืบหน้าล่าสุด (8 กันยายน 2560) ที่กองปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวการจับกุมตัว นางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ โดยเจ้าตัวมีสีหน้าสลดตลอดเวลาและกระอักกระอ่วนในการตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้นางสาวจริยาภรณ์ เผยว่า ตนทำอาชีพเกี่ยวกับผลไม้จริง ส่วนการแต่งงานก็มีการไปมาหาสู่กันจริง ได้เสียกันจริง แต่ละคนก็จะมีระยะเวลาในการพูดคุยทำความรู้จักกันอยู่ ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงหรือเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายมา ส่วนตอนที่คบกันก็รักกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อบอกว่ารัก แล้วทำไมถึงไปเอาทรัพย์สินของเขา หลอกเขา นิยามความรักของเธอคืออะไร ซึ่งนางสาวจริยาภรณ์ ได้แต่นิ่งเฉยไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ แต่ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำและไม่รู้ว่ามีผู้เสียหายถึง 30 คน เพราะที่แต่งงานด้วยมีเพียงแค่ 7 คนเท่านั้น ที่เหลือน่าจะเป็นเกี่ยวกับการฉ้อโกงการขายผลไม้มากกว่า ส่วนผู้เสียหายที่ไม่ได้แต่งงานแล้วทำยังไงถึงโอนทรัพย์สินให้ เจ้าตัวไม่ขอตอบ
นางสาวจริยาภรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาตนก็ใช้กิน ใช้ลงทุน คบแฟนคนไหนก็ทำธุรกิจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนางสาวจริยาภรณ์ ฝ่ากองทัพสื่อออกจากห้องแถลงข่าวไปขึ้นรถ จากนั้นก็ขับออกไป
ด้านหนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาในวันนี้ เผยว่า ตอนนี้ไม่มีความรักให้แล้ว เสียความรู้สึก เสียทั้งเงิน แถมทิ้งหนี้สินไว้ด้วย ก่อนหน้านี้คิดว่าจะสร้างอนาคตด้วยกัน ทั้งนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด