
หลังจากโลกออนไลน์ ได้แชร์เรื่องราวนักศึกษาแพทย์รายหนึ่งซื้อสุุนัขมาจากฟาร์ม จากนั้นได้วางยาฆ่าเพื่อหวังเอาเงินประกันจากบริษัทขนส่งสุนัข 50,000 บาท อีกทั้งยังพบว่านักศึกษาแพทย์รายนี้ เคยทำลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง ทำเอาบรรดาคนรักสัตว์วิจารณ์กันสนั่นถึงความใจร้ายโหดเหี้ยม พร้อมเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบพฤติกรรม ชี้เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง (อ่านข่าว : มหิดล สั่งสอบ นศ.แพทย์วางยาหมา - โซเชียลชี้เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง)

นางณัฐนันท์ เล่าอีกว่า ปกติตนจะไม่ได้ไปด้วย แต่ในฐานะที่ตนก็เลี้ยงปอมเมอเรเนียนด้วยก็จะค่อนข้างละเอียด ตอนไปก็เตรียมกลูโคสคอยป้อน ทำให้ร่างกายสดชื่นระหว่างการเดินทาง เคสนี้ตนก็เห็นเม็ดยาสีขาวเหมือนในข่าว ติดคอน้องหมาและติดกระเป๋าน้องหมา ก็ถามไปว่ายาอะไร เขาบอกวิตามิน พอมาเห็นข่าวก็คิดว่าเป็นยาตัวเดียวกัน และหมาน่าจะโดนวางยามาตั้งแต่ กทม. แล้ว เพราะดูไม่ค่อยสดชื่น แต่ตอนนั้นเราคิดว่าเดินทางหมาคงเพลีย
พอไปถึงโคราชก็ไม่มีปัญหาถือว่าสิ้นสุดประกัน เขาก็พาสุนัขไปคลินิกเพื่อฝากเลี้ยงไว้ก่อน และเขาก็เข้าบ้านที่โคราช ตนก็ขับรถไปส่งหน้าปากซอยบ้านเขา จากนั้นตนก็กลับ กทม. แล้วเขาก็โทร. มาบอกว่าหมาตาย รับผิดชอบหน่อย ตนก็บอกไปว่าสิ้นสุดการประกันแล้วนะ เพราะหมาออกจากเราไปแล้ว ตอนนั้นเราสงสารหมา คิดไปว่าหรือจะเป็นความผิดเราก็เลยย้อนรถกลับไปโคราชอีกครั้งและไปดูหมาที่คลินิกที่เขาฝากเลี้ยงเอาไว้ ตอนไปถึงหมอก็นำหมาที่ตายแล้วใส่กล่องไว้ แล้วก็ใช้ภาษาแพทย์คุยกันประมาณว่าเป็นความผิดเรื่องการขนส่งไหม สัตวแพทย์ก็ตอบว่าไม่ทราบสาเหตุ แล้วเขาก็บอกตนว่า ต้องจ่ายให้เขา 4 หมื่นบาท แต่ตนไม่ยอมเลยถามหมอว่าถ้าลูกค้าแจ้งความจะชันสูตรได้ไหม หมอแจ้งว่าเขาไม่ถนัด ชันสูตรต้องส่งต่อยุ่งยาก

นางณัฐนันท์ ยังบอกอีกว่า เมื่อเขาเล่นงานตนไม่ได้ เขาก็หันไปเล่นงานหมอคลินิกที่รับฝากเลี้ยง เขาบอกว่าหมอต้องจ่ายให้นะ ไม่รู้หมอทำอะไรกับหมาหรือเปล่าจะเอาเงินให้ได้ จนมีการถกเถียงกัน สุดท้ายหมอก็บอกช่วยไม่ได้ เขาก็เหมือนทำอะไรไม่ได้ หมอก็เลยไม่ได้คิดเงิน และยังให้พนักงานวิ่งเอาเงินไปให้นักศึกษาแพทย์อีก 2,000 บาท ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ส่งไปโคราชเหมือนกัน ตายเหมือนกัน พอเข้าไปดูในเฟซบุ๊กปรากฏว่าเป็นคนเดียวกัน
หลังเกิดเรื่องเพื่อนเขามาบอกตนว่า บ้านเขาก็รวยมีฐานะ ไม่รู้ทำไมทำแบบนี้ คนเรียนหมอจะจบแล้วถ้าทำแบบนี้จบออกมาเป็นหมอจะน่ากลัวขนาดไหน บางคนส่งข้อความมาบอกว่า เขาป่วย กรณีนี้มันเหมือนมีการวางแผนเดินไปให้จบเกมเหมือนคนหัดเป็นโจร ตั้งแต่ส่งหมามาเป็นพันตัวไม่เคยตาย เพิ่งเจอตัวนี้ตัวแรก คือถ้าตายระหว่างขนส่งเรายินดีชดใช้ แต่ต้องผ่าพิสูจน์

อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เลี้ยงหมาก็ไม่อยากเจอแบบนี้ แต่ที่ห่วงมากกว่า คือ ถ้าเขาจบเป็นหมอมาไปรักษาคน เขาจะหาวิธีถูกกฎหมายฆ่าใครหรือไม่ ตรงนี้อันตรายมากจิตใจปกติหรือเปล่า ต้องระวัง ส่วนบริษัทรับ-ส่งสัตว์เลี้ยงก็มีโอกาสเสี่ยงเจอแบบนี้เยอะ และเกรงว่าพอมีเคสนี้ อาจมีพฤติกรรมเลียนแบบต้องการเอาเงินประกันดังนั้นบริษัทต้องรัดกุมไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อได้ ขอความเป็นธรรมให้น้องหมาที่ตายไปด้วยไม่อยากให้ 2 ชีวิตต้องตายฟรี นางณัฐนันท์ กล่าว
นอกจากนี้ นางณัฐนันท์ ยังเผยด้วยว่า นักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวเคยไปติดต่อน้องชายด้วยว่า จะส่งกระต่าย 10 ตัว ขอประกันชีวิตตัวละ 5,000 ซึ่งน้องชายบอกว่ามันแปลก ๆ เลยไม่ได้รับงานนั้นไป
ภาพและข้อมูลจาก
, เฟซบุ๊ก ณัฐนันท์ จีระวิวิธพร






