เสี่ยโป้ เข้าแจ้งความถูกตำรวจ 2 นาย บุกจับกลางร้านอาหาร ก่อนถูกชักปืนจ่อหัวข่มขู่ ขณะที่คนอยู่ในเหตุการณ์แย้ง บอกไม่เห็นมี มีแค่ตำรวจตรวจค้นปกติ
เมื่อวานนี้ 14 กันยายน 2560 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานว่า นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ อานนท์ อายุ 25 ปี พร้อมด้วยนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ได้เดินทางเข้าแจ้งความยัง สน.บางบอน เพื่อเอาผิดต่อตำรวจฝ่ายสืบสวนชื่อ อาร์ต ไม่ทราบสังกัด พร้อมพวกรวม 4 คน มีการชักปืนข่มขู่ ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านบางบอน ถ.เอกชัย ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา
โดย เสี่ยโป้ เผยว่า ตนเองได้มีการนัดเคลียร์คู่กรณีของตน ที่เคยมีปัญหากันจากเฟซบุ๊ก มาตกลงเคลียร์กันที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งหลังพูดคุยกันเสร็จ คู่กรณีก็กลับออกไปจากร้าน ขณะนั้นก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 2 นาย ไม่ทราบสังกัด ทราบชื่อ 1 คน คือ "อาร์ต" ได้พยายามเข้าจับกุมตนและน้องตน หลังมีการค้นตัวน้องชายตน คือ นายวรรลภ มณีธีรพงศ์ แล้วพบอาวุธปืน 2 กระบอก ได้แก่ ปืนลูกโม่ สมิธแอนด์เวลสัน ขนาด.38 และปืนบาเร็ตต้า ขนาด .9 มม. โดยตนเองยืนยันว่าปืนดังกล่าวเป็นปืนที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่ชื่อไม่ตรงกับผู้ที่พกพา เพราะยืมคนที่รู้จักมา จึงถูกจับในข้อหาพกพาปืนผิดมือ
เสี่ยโป้ กล่าวอีกว่า ในบันทึกการจับกุมของตำรวจ พบมีเพียงปืนกระบอกเดียว ส่วนปืนอีก 1 กระบอกหายไป และขณะจับกุมตนเองก็ถูกตำรวจอีกหนึ่งนายชักปืนขึ้นมาข่มขู่ และได้อ้างว่าต้องมีของตอบแทนเพื่อที่จะให้ช่วยเหลือ ก่อนจะคุมตัวทั้งหมดไปยัง สน.บางบอน
ทั้งนี้ นายวรรลภ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ ในช่วงที่ตนและเสียโป้กำลังจะกลับออกจากร้าน ก็ถูกตำรวจเรียกค้น และเจอปืนในกระเป๋าเป้ ตนจึงโดนจับในข้อหาปืนผิดมือ ซึ่งตนยืนยันว่าปืนดังกล่าวเป็นปืนที่ตนซื้อมา แต่อยู่ระหว่างรอโอนทะเบียน อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ว่าเสี่ยโป้ถุกปืนจ่อหัวนั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่เห็น
ขณะที่ นายทวีศักดิ์ ทรัพย์เต็มสุข รุ่นน้องอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่า เหตุการณ์นัดเคลียร์ของเสี่ยโป้นั้น อาจมีปากเสียงกันเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งหลังจบเรื่องทั้งคู่ก็จับมือถ่ายรูปกัน ซึ่งตนยังคงติดใจอยู่หนึ่งเรื่อง ที่ว่าเหตุใดถึงไม่ยอมให้ประกันตัวนายวรรลภ ทั้งที่ทำได้ แต่กลับให้นอนทั้งคืนแล้วมาให้ประกันตัวภายหลัง
ด้าน ทนายรณณรงค์ แก็วเพ็ชร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เสี่ยโป้ได้เดินทางมาเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนดำเนินการขอภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านอาหาร เพราะกลัวว่าภาพจากกล้องจะถูกลบ เนื่องจากที่ร้านมีหุ้นส่วนเป็นตำรวจ ส่วนภาพจากกล้องของเสี่ยโป้ได้ถ่ายไว้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากมีผู้ใหญ่อยู่ในเหตุการณ์หลายคน กลัวว่าจะได้รับผลกระทบตามมา
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยัง นายโสภณ นาถนุกูล และนายชนะ วรศาสตร์ คู่กรณีของเสี่ยโป้ ที่นัดเคลียร์กันในวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนได้รับนัดและเดินทางมา แต่ระหว่างพูดคุยเสี่ยโป้กลับมีการพูดจาไม่ดี พูดว่า "ถ้ากูไม่เกรงใจ...มึงร่วงตรงนี้" พร้อมมีทีท่าคล้ายจะหยิบอาวุธออกมาจากเอว แต่มีคุณวัน อยู่บำรุง ผู้ใหญ่ที่นัดเคลียร์ให้ ได้ห้ามเอาไว้ และหลังคุยเสร็จ ตนก็กลับ และในเรื่องที่เสี่ยโป้กล่าวอ้างว่าถูกตำรวจชักปืนขู่นั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะเกิดเหตุหลังจากที่ตนกลับออกจากร้านแล้ว
นอกจากนี้ จากการสอบถาม นายสอง อยู่บำรุง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 1 คน กลับยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีการยกปืนขู่แต่อย่างใด มีเพียงการปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นเท่านั้น
ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Ws Chana,
