พ่อ ส.ต. ธเนตร พุทโท ฮีโร่ผู้สละชีพพิทักษ์แดนใต้ เผยก่อนลูกชายจะเสียชีวิต โทร. บอกตั้งใจจะสร้างบ้านให้-เลิกบุหรี่ได้แล้ว ชี้ลูกอยากไปอยู่ใต้ ไม่ใช่ไม่ห้าม แต่ใจเขารัก คิดแค่ว่าคงไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวเรา
ถือว่าสร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก กับเหตุโจรใต้ลอบวางระเบิด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา หนึ่งในนั้น คือ ส.ต. ธเนตร พุทโท หรือ ต้น เจ้าหน้าที่ทหารพราน ซึ่งนับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวพุทโท
ล่าสุด (15 กันยายน 2560) ผู้สื่อข่าว new 18 ได้เผยคำสัมภาษณ์ นายพีรภัทร พุทโท หรือ พ่อเคน อายุ 54 ปี บิดาของ ส.ต. ธเนตร โดยเปิดเผยความรู้สึกว่า ช็อกมากเมื่อรู้ข่าวว่าลูกชายเสียชีวิต ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าเขาไปดีแล้ว ลูกไปเป็นเทวดาแล้ว ตนคงไม่ไปอาฆาตแค้นอะไร คิดว่าคนที่ทำร้ายลูกเขาคงได้รับผลกรรมเอง และภูมิใจในตัวลูกมากเพราะเขาเสียชีวิตในหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรี
พ่อเคน เล่าว่า ก่อนเสียชีวิตลูกชายตั้งใจจะมาสร้างบ้านให้พ่อ เขาเป็นเด็กดีมาก ช่วยเหลือสังคมมาตลอด หลายปีก่อนเขาแอบไปสมัครทหารเกณฑ์ บอกว่า "ต้นจะไปใต้นะ" แต่ตนไม่อยากให้ลูกไป เขาก็บอกว่า "ถ้าต้นอยู่กับพ่อ ต้นก็เกเรแข่งรถจักรยานยนต์อาจจะตายบนถนน แต่ถ้าไปเป็นทหารตายก็มีศักดิ์ศรี" ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเห็นชีวิตลูกมีแต่ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยหมาและแมว ลูกชายเพิ่งมาบอกกับตนว่าสามารถเลิกบุหรี่ได้แล้ว และบอกจะกลับมาสร้างบ้านให้พ่อ ไม่คิดเลยว่าเขาจะจากเราไป คิดเพียงว่าลูกทำบุญมาแค่นี้ และรู้สึกภูมิใจในตัวลูก พอคนรู้ว่าเขาเสียชีวิต คนที่อยู่แถวบ้านมาช่วยกันหมด เกินความคาดหมาย ทุกคนบอกว่าลูกชายสุดยอด เดินไปตลาดก็ดีใจ ภูมิใจในตัวเขามาก
ด้าน นางศรีอัมพร บุญเพชร หรือ แม่เยาว์ อายุ 48 ปี มารดาของ ส.ต. ธเนตร กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจมากพอได้รับโทรศัพท์ คิดอย่างเดียวว่าลูกคงเสียชีวิต และเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตแล้ว เพราะเรามีลูกชายคนเดียว ก่อนหน้าที่ลูกจะไปอยู่ใต้ ไม่ใช่แม่ไม่ห้าม แต่ใจเขารัก ตนอยากให้เหตุการณ์ใต้สงบ ทำไมคนไทยด้วยกันไม่รักกัน ทำให้คนบริสุทธิ์เดือดร้อนทำไม คนที่มาทำร้ายหากเขาสูญเสียเหมือนเราบ้างจะรู้สึกอย่างไร จิตใจเขาไม่ใช่มนุษย์ อยากให้นึกถึงหัวอกคนที่สูญเสียบ้าง
แม่เยาว์ เล่าต่อว่า ลูกชายทำเพื่อคนอื่นมาตลอด แม้กระทั่ง 2-3 วันก่อนที่จะเสียชีวิต เขายังโทร. มาขอตังค์ไปซื้ออาหารให้หมาและแมวที่เลี้ยงไว้ เพราะเงินที่เขาได้รับมันไม่พอจะไปช่วยเหลือ ตัวเขาเรียนอยู่ด้วย ค่าใช้จ่ายเยอะ ซึ่งเขาจะคิดถึงคนอื่นเสมอ ไม่เคยบ่น ไม่เคยนินทาใคร เขายังบอกว่าต่อไปจะไม่ให้พ่อแม่ลำบาก เขาจะกู้เงินมาสร้างบ้านให้พ่อ
ขณะที่ น.ส.ธิดารัตน์ พุทโธ หรือ น้องหญิง อายุ 20 ปี น้องสาวคนเดียวของ ส.ต. ธเนตร กล่าวว่า พอรู้ข่าวก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก พยายามตั้งสติ เรามีกันสองพี่น้อง พี่ชายไปเป็นทหารพรานหลายปีไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่เราก็คุยกันบ่อย เขามักจะบอกว่าพี่เหนื่อย เราก็ได้แต่ให้กำลังใจ และเคยถามเขาว่าไปอยู่ใต้ ทำไมไม่เอาพระติดตัวไปด้วย เขาบอกว่าถ้าจะตายวันไหนก็ตาย ครอบครัวบอกให้ให้กลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ ตอนอยู่ที่บ้านเขาก็ทำงานที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอนนี้ตนตั้งท้องอยู่ แต่ยังไม่รู้เพศลูก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เป็นผู้ชายจะได้เป็นตัวแทนพี่เขา
ภาพและข้อมูลจาก
