จากกรณีที่ คุณยายละเมียด และคุณตาสุนทร สองสามีภรรยาซึ่งทำอาชีพเก็บของเก่าและเก็บผัก ได้ร้องทุกข์กับผู้ใหญ่บ้านว่าถูกหลานไล่ออกจากบ้าน ทั้งที่ที่ดินผืนดังกล่าวพวกตนเป็นคนยกให้หลาน แต่หลานกลับมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังมีสามี ส่วนหลานได้ออกมาปฏิเสธว่าเนรคุณ เพราะที่ผ่านมาดูแลตา-ยาย อย่างดี แต่กลับถูกแช่งให้ลูกในท้องตาย และถูกขู่ฆ่า รวมทั้งมั่นใจว่าที่ดินตรงนี้มาจากการที่ยายขโมยทอง 2 บาท ของแม่ไปขาย (อ่านข่าว : หลานโต้เนรคุณตา-ยาย เชื่อฉกทองแม่ซื้อที่ดิน ชี้ไล่ไปอึขุดหลุมฝังเพราะสกปรก)
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 17 กันยายน 2560 รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สัมภาษณ์ ยายละเมียด ซึ่งเล่าว่า หลังที่ตนเล่าเรื่องนี้กับสื่อ ก็กลับถูกหลานเขย มาข่มขู่และทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนก็บอกไปว่า "จะตายก็ตาย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเพราะได้เจ้งความไว้หมดเเล้ว ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น" เนื่องจากตนยังมีความหวังว่าจะได้บ้านและที่ดินทั้งหมดคืนกลับมา
ยายละเมียด เผยอีกว่า ตนไม่ได้ขโมยทองตามที่หลานกล่าวหา แต่เอาทองไปขายเพื่อหาเงินรักษาแม่ของหลาน ส่วนที่ดินผืนนี้มาจากการขายวัว ขายควาย ส่วนชีวิตในตอนนี้ก็ดีขึ้น ภายหลังจากได้รับสุขาเคลื่อนที่จากหน่วยงานราชการแล้ว ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกคน
ต่อมา ลูกสาวของยายละเมียด ได้เดินทางมาหาแม่ แต่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ เพราะถูกหลานและหลานเขยขู่ว่า ถ้าบุกรุกจะแจ้งความจับ ทำได้แค่คุยกับแม่นอกตัวบ้าน และได้สวมกอดแม่ พร้อมบอกให้สู้ ๆ ตนเป็นกำลังใจให้เสมอ ซึ่งหากตนได้โบนัสเมื่อไหร่ก็จะนำเงินมาช่วยเหลือและใช้หนี้สินให้แม่ทันที
ส่วนกรณีทอง 2 บาท ที่ยายละเมียดระบุว่าเอาไปขายเพื่อเอาเงินมารักษาแม่ของหลานนั้น ทางหลานกล่าวว่า ตอนแม่ตนเสีย ตนยังใส่ทองดังกล่าวอยู่ ขณะนั้นตนกำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และพ่อตนเป็นผู้ส่งเสียในทุกเรื่องตลอด มั่นใจว่ายายเอาทอง 2 บาทไปขายเพื่อซื้อที่ดินอย่างแน่นอน
ทั้งนี้หลานของยายละเมียด ยืนยันว่า จะไม่มีการเข้าไปขอขมายาย เพราะครั้งที่ตนท้องยายได้แช่งให้ตนคลอดลูกตาย คำพูดดังกล่าวยังฝังใจ แล้วนี่หรือที่ยายเรียกว่ารักหลาน
ภาพและข้อมูลจาก