จากกรณีข่าวรถเก๋งเสียหลักพุ่งตกหลุมลงสถานที่ก่อสร้าง เจ็บ 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยสันนิษฐานเบื้องต้นว่าผู้ประสบเหตุไม่ทันสังเกตเห็น เนื่องจากไม่มีป้ายแจ้งเตือน ขณะที่ผู้รับเหมาออกมาชี้แจงว่า มีการติดป้ายเตือนชัดเจน แต่มีรถชนจนป้ายพัง ก่อนเกิดเหตุสลดดังกล่าว และได้ดำเนินการติดตั้งสัญญาณไฟเพิ่ม เพื่อป้องกันเหตุเกิดซ้ำอีกนั้น [อ่านข่าว : ผู้รับเหมา ยัน ติดป้ายเตือนชัด แต่ถูกชนจนพัง ก่อนเกิดเหตุรถตกหลุมก่อสร้าง คลิก]
เกี่ยวกับเรื่องนี้วันที่ 16 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์เวิร์คพอยท์ทีวี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจดูระบบการจัดตั้งสัญญาณไฟ เครื่องกีดกั้น และป้ายสัญญาณว่าเป็นอย่างไร สำหรับในเรื่องคดีนั้นต้องสอบสวนพยานบุคคล คือ ผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ และตรวจสอบว่าผู้รับเหมาได้ทำสัญญาณไว้ถูกต้องหรือไม่ ที่สำคัญต้องดูว่าก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุมีการทำป้ายเตือนอย่างไร ซึ่งต้องสอบปากคำพยานอีกหลายปาก ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปสำนวนและแจ้งข้อหากับใคร
ขณะที่ นายสันติชัย ประสันนาการ พี่ชายของผู้บาดเจ็บ ระบุว่า จากการร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ต้องรอดูรูปคดีจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องอย่างไร
นายสันติชัย ยังระบุด้วยว่า กรณีการสร้างท่อระบายน้ำบนถนนแล้วเกิดอุบัติเหตุจนเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เกิดขึ้นบ่อย และเมื่อคดีสิ้นสุดผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนก็คือชาวบ้าน ตอนนี้ทางญาติของผู้เสียหายยังไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ข้องใจถึงมาตรการการป้องกันของแขวงการทางที่บอกว่ามอบอำนาจให้ผู้รับเหมาไปแล้ว แต่ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินชาวบ้านที่ประสบเหตุนั้นใครจะผู้รับผิดชอบ
ภาพและข้อมูลจาก