ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชื่อของ มัลคอล์ม แอปเปิลเกต ชายวัย 62 ปี ปรากฏอยู่หน้าสื่อหลายเจ้าในประเทศอังกฤษ เรื่องราวชีวิตของเขาสร้างความสนอกสนใจให้กับผู้คนมากมาย ล้วเขาทำอะไรกันล่ะ ผู้คนถึงได้สนใจกันนัก คำตอบก็คือ เขาลงทุนย้ายข้าวของตัวเองออกจากบ้าน หนีไปอาศัยอยู่ในป่า เพราะเขาทนภรรยาไม่ไหวอีกต่อไป
เรื่องราวชีวิตของมัลคอล์มถูกนำมาเปิดเผยโดยเว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 โดยสมัยที่มัลคอล์มยังหนุ่ม ๆ นั้น เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีอิสระเสรี เหมือนกับคนหนุ่มทั่ว ๆ ไป เขาทำงานเป็นคนสวนมาตลอดชีวิต เพราะการทำให้สวนของคนอื่น ๆ มีชีวิตชีวา คือความสุขที่สุดในชีวิตของเขา ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเขาก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์
ความไม่ลงตัวในเรื่องนี้ทำให้ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกัน มัลคอล์มพยายามรักษาชีวิตแต่งงานของเขาเอาไว้เท่าที่เขาจะทำได้ แต่ภรรยาของเขาก็เกรี้ยวกราดมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอไม่พอใจที่เขาออกจากบ้านไปทำงานและต้องการให้เขาลดเวลาทำงานลง อีกทั้งยังเริ่มบงการเขาในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมัลคอล์มก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงเก็บข้าวเก็บของและออกไปจากบ้าน เขาไม่ได้ไปพักในโรงแรมที่ไหน ไม่ได้ไปขออาศัยบ้านเพื่อน และก็ไม่ได้วางแผนจะหย่าอีกด้วย เขาแค่หายตัวไปเฉย ๆ
"ผมแต่งงานกับเธอมา 3 ปี โชคร้ายที่มันเกิดปัญหาขึ้น และมันมากเกินที่ผมจะรับได้ ตลอด 3 ปี มันเคยเป็นช่วงเวลาที่ดี เราเคยมีกันและกัน แต่เธอไม่แฮปปี้กับการทำสวนเอาเสียเลย เราทะเลาะกันมาหลายต่อหลายครั้ง จนมันถึงจุดที่ผมทนไม่ไหว ผมจึงเก็บของและหันหลังจากมา" มัลคอล์ม เล่าถึงชีวิตการแต่งงานของเขา
หลังจากออกจากบ้าน มัลคอล์มก็มีเพียงจักรยานเป็นยานพาหนะคู่ใจ เขาวางแผนจะขี่ไปเรื่อย ๆ จนถึงลอนดอน แต่เมื่อถึงอ็อกซ์ฟอร์ด เขาลืมล็อกล้อจักรยานเอาไว้และมันก็ถูกขโมยไป เขาจึงเดินเท้าแทน และหลังจากที่มัลคอล์มเดินไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก มาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เขาก็หยุดพักที่ป่าทึบแห่งหนึ่งแถว ๆ คิงส์ตัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน และมันก็กลายเป็นที่อยู่ถาวรของเขา
การอยู่ในป่าคือชีวิตใหม่ของเขา โดยในตอนกลางวัน มัลคอล์มจะออกไปรับจ้างทำสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับชุมชนใกล้เคียง และเมื่อตกค่ำ เขาก็เดินทางกลับเข้าป่า และนอนในเต็นท์ที่เขากางเอาไว้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
มัลคอล์มใช้ชีวิตอยู่ในป่าแบบนั้นเป็นเวลาประมาณ 5 ปี ก่อนจะย้ายออกมาอาศัยที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน เอ็มมาอุส กรีนิช ตั้งอยูในกรีนิช ทางใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งเขาก็อยู่ที่นั่นมาเป็นเวลา 5 ปีจนถึงปัจจุบัน และตลอดระยะเวลา 10 ปี ของการใช้ชีวิตนอกบ้านนั้น มัลคอล์มต้องการหนีไปให้ไกลจากภรรยามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่เคยติดต่อหาเธออีกเลย ไม่ติดต่อใครทั้งนั้นแม้กระทั่งครอบครัวของเขา เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ คนเดียวที่มัลคอล์มเพิ่งติดต่อไปหาก็คือน้องสาวของเขา ซึ่งเธอก็ตามหาเขามานานหลายปี และคิดว่าเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว
"ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอเธอ (น้องสาว) ก็ผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว ตอนนั้นเธอตระเวนไปทั่วเพื่อออกตามหาผม ผมเชื่อว่าน้องสาวผมคงคิดว่าผมตายไปแล้ว ผมจึงเขียนจดหมายหาเธอ บอกเธอไปว่าทุกวันนี้ผมอาศัยอยู่ที่กรีนิช และเธอก็ไทร. มาหาผม ร้องไห้ยกใหญ่ และตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราก็กลับมาดีเหมือนเดิม" มัลคอล์ม เล่า
สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้านนั้น มัลคอล์มเปิดเผยว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด เขามีห้องสะอาด ๆ ให้นอน เขาได้มีเพื่อน ได้มีสังคมใหม่ ๆ และยังได้ทำงานต่อไปได้อีกด้วย ซึ่งเขาทำทุกอย่างที่เขาจะทำไหว ตั้งแต่ช่วยงานในร้านค้า ขับรถตู้และทำสวน เวลาว่าง ๆ เขาก็จะไปร่วมงานเดินการกุศล เพื่อหาเงินช่วยเหลือคนไร้บ้านอีกด้วย
"ผมชอบที่นี่ครับ ตอนนี้ชีวิตผมกลับมาดีเหมือนเดิมอีกครั้งแล้ว" มัลคอล์มกล่าวทิ้งท้าย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Emmaus Greenwich
ข้อมูลจาก emmaus.org.uk