x close

ลุงวัย 62 ปี หอบข้าวของหนีเข้าป่า เหตุทนเมียจู้จี้ไม่ไหว ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว

ชายหนีออกจากบ้านไปอยู่ป่าเพราะเบื่อเมีย

          เปิดเรื่องราวชีวิตพ่อบ้านใจกล้า วัย 62 ปี ตัดสินใจออกจากบ้าน ทิ้งชีวิตทุกอย่างและหนีไปอยู่ในป่า เหตุเพราะขยาดภรรยา ทั้งเกรี้ยวกราด จูจี้ และบงการชีวิตจนทนไม่ไหว

          ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชื่อของ มัลคอล์ม แอปเปิลเกต ชายวัย 62 ปี ปรากฏอยู่หน้าสื่อหลายเจ้าในประเทศอังกฤษ เรื่องราวชีวิตของเขาสร้างความสนอกสนใจให้กับผู้คนมากมาย ล้วเขาทำอะไรกันล่ะ ผู้คนถึงได้สนใจกันนัก คำตอบก็คือ เขาลงทุนย้ายข้าวของตัวเองออกจากบ้าน หนีไปอาศัยอยู่ในป่า เพราะเขาทนภรรยาไม่ไหวอีกต่อไป

          เรื่องราวชีวิตของมัลคอล์มถูกนำมาเปิดเผยโดยเว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 โดยสมัยที่มัลคอล์มยังหนุ่ม ๆ นั้น เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีอิสระเสรี เหมือนกับคนหนุ่มทั่ว ๆ ไป เขาทำงานเป็นคนสวนมาตลอดชีวิต เพราะการทำให้สวนของคนอื่น ๆ มีชีวิตชีวา คือความสุขที่สุดในชีวิตของเขา ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเขาก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์
          ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 13 ปีที่แล้ว มัลคอล์มพบรักกับผู้หญิงคนหนึ่งและตัดสินใจแต่งงานกับเธอ ตอนแรก ๆ เขาและภรรยาก็มีความสุขดีมาก ช่วงข้าวใหม่ปลามันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม มัลคอล์มเป็นคนรักงาน และเขาก็ทุ่มเทให้กับมันเสมอ เพราะงานที่มาก ก็หมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่แล้วภรรยาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเริ่มกลายเป็นคนช่างบงการ และสั่งให้มัลคอล์มลดเวลาทำงานลง เพื่อมาคอยเอาใจเธอ

ชายหนีออกจากบ้านไปอยู่ป่าเพราะเบื่อเมีย

          ความไม่ลงตัวในเรื่องนี้ทำให้ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกัน มัลคอล์มพยายามรักษาชีวิตแต่งงานของเขาเอาไว้เท่าที่เขาจะทำได้ แต่ภรรยาของเขาก็เกรี้ยวกราดมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอไม่พอใจที่เขาออกจากบ้านไปทำงานและต้องการให้เขาลดเวลาทำงานลง อีกทั้งยังเริ่มบงการเขาในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมัลคอล์มก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงเก็บข้าวเก็บของและออกไปจากบ้าน เขาไม่ได้ไปพักในโรงแรมที่ไหน ไม่ได้ไปขออาศัยบ้านเพื่อน และก็ไม่ได้วางแผนจะหย่าอีกด้วย เขาแค่หายตัวไปเฉย ๆ

          "ผมแต่งงานกับเธอมา 3 ปี โชคร้ายที่มันเกิดปัญหาขึ้น และมันมากเกินที่ผมจะรับได้ ตลอด 3 ปี มันเคยเป็นช่วงเวลาที่ดี เราเคยมีกันและกัน แต่เธอไม่แฮปปี้กับการทำสวนเอาเสียเลย เราทะเลาะกันมาหลายต่อหลายครั้ง จนมันถึงจุดที่ผมทนไม่ไหว ผมจึงเก็บของและหันหลังจากมา"
มัลคอล์ม เล่าถึงชีวิตการแต่งงานของเขา

          หลังจากออกจากบ้าน มัลคอล์มก็มีเพียงจักรยานเป็นยานพาหนะคู่ใจ เขาวางแผนจะขี่ไปเรื่อย ๆ จนถึงลอนดอน แต่เมื่อถึงอ็อกซ์ฟอร์ด เขาลืมล็อกล้อจักรยานเอาไว้และมันก็ถูกขโมยไป เขาจึงเดินเท้าแทน และหลังจากที่มัลคอล์มเดินไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก มาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เขาก็หยุดพักที่ป่าทึบแห่งหนึ่งแถว ๆ คิงส์ตัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน และมันก็กลายเป็นที่อยู่ถาวรของเขา

          การอยู่ในป่าคือชีวิตใหม่ของเขา โดยในตอนกลางวัน มัลคอล์มจะออกไปรับจ้างทำสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับชุมชนใกล้เคียง และเมื่อตกค่ำ เขาก็เดินทางกลับเข้าป่า และนอนในเต็นท์ที่เขากางเอาไว้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว


          "ตรงนั้นมีคนกางเต็นท์นอนกันอยู่ 3 คน พวกเขาตั้งแคมป์อยู่ด้วยกันกับผม ผมเคยทำงานในชุมชน และพวกเราก็เข้าไปอาบน้ำ ล้างเนื้อล้างตัวกันที่นั่น ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าพวกเราอาศัยอยู่ในป่า ที่นั่นไม่ค่อยมีคนรู้จัก และไม่มีใครเคยเข้าไปด้วย" มัลคอล์ม กล่าว

          มัลคอล์มใช้ชีวิตอยู่ในป่าแบบนั้นเป็นเวลาประมาณ 5 ปี ก่อนจะย้ายออกมาอาศัยที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน เอ็มมาอุส กรีนิช ตั้งอยูในกรีนิช ทางใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งเขาก็อยู่ที่นั่นมาเป็นเวลา 5 ปีจนถึงปัจจุบัน และตลอดระยะเวลา 10 ปี ของการใช้ชีวิตนอกบ้านนั้น มัลคอล์มต้องการหนีไปให้ไกลจากภรรยามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่เคยติดต่อหาเธออีกเลย ไม่ติดต่อใครทั้งนั้นแม้กระทั่งครอบครัวของเขา เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ คนเดียวที่มัลคอล์มเพิ่งติดต่อไปหาก็คือน้องสาวของเขา ซึ่งเธอก็ตามหาเขามานานหลายปี และคิดว่าเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว

          "ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอเธอ (น้องสาว) ก็ผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว ตอนนั้นเธอตระเวนไปทั่วเพื่อออกตามหาผม ผมเชื่อว่าน้องสาวผมคงคิดว่าผมตายไปแล้ว ผมจึงเขียนจดหมายหาเธอ บอกเธอไปว่าทุกวันนี้ผมอาศัยอยู่ที่กรีนิช และเธอก็ไทร. มาหาผม ร้องไห้ยกใหญ่ และตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราก็กลับมาดีเหมือนเดิม" มัลคอล์ม เล่า

          สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้านนั้น มัลคอล์มเปิดเผยว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด เขามีห้องสะอาด ๆ ให้นอน เขาได้มีเพื่อน ได้มีสังคมใหม่ ๆ และยังได้ทำงานต่อไปได้อีกด้วย ซึ่งเขาทำทุกอย่างที่เขาจะทำไหว ตั้งแต่ช่วยงานในร้านค้า ขับรถตู้และทำสวน เวลาว่าง ๆ เขาก็จะไปร่วมงานเดินการกุศล เพื่อหาเงินช่วยเหลือคนไร้บ้านอีกด้วย

          "ผมชอบที่นี่ครับ ตอนนี้ชีวิตผมกลับมาดีเหมือนเดิมอีกครั้งแล้ว" มัลคอล์มกล่าวทิ้งท้าย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Emmaus Greenwich
ข้อมูลจาก emmaus.org.uk


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลุงวัย 62 ปี หอบข้าวของหนีเข้าป่า เหตุทนเมียจู้จี้ไม่ไหว ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว โพสต์เมื่อ 18 ตุลาคม 2560 เวลา 12:07:23 52,419 อ่าน
TOP