ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 3 ปี เบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง รัฐบาลปู กับพวก ช่วย โอ๊ค-เอม ไม่ยื่นภาษีหุ้นชินคอร์ป
วันที่ 19 ตุลาคม 2560 ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่ ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร, น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ, นายกริช วิปุลานุสาสน์ ซึ่งทั้งสามเป็นอดีต ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขาส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีช่วยให้ นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรของนายทักษิณ เลี่ยงภาษีจากการซื้อหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2549 คนละ 7,941,950,000 บาท
ส่วน น.ส.ปราณี มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 86 มีโทษ 2 ใน 3 จึงให้จำคุก 2 ปี เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ของจำเลยทั้งหมดไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ ต่อมาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์และได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ คนละ 300,000 บาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใด ๆ
ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ได้ตรวจสำนวนและเห็นว่าทุกประเด็นในคำอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น โดยที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยทั้งหมดโดยไม่รอการลงโทษนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย เนื่องด้วยความผิดของจำเลยทั้งหมดเป็นการกระทำโดยมิได้คำนึงถึงความเสียหาย และความน่าเชื่อถือในการจัดเก็บภาษีอากรของประเทศชาติ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง จะอ้างว่าเรื่องนี้ในที่สุดแล้วก็มิได้เกิดความเสียหายแก่รัฐโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษายึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องไปหมดแล้วและศาลภาษีอากรกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนการประเมินภาษีของกรมสรรพากรไปแล้ว มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอให้ศาลอุทธรณ์ รอการลงโทษไม่ได้ จึงพิพากษายืนศาลชั้นต้น อย่างไรก็ดีมีรายงานมาด้วยว่าจำเลยทั้งหมดได้เตรียมยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นฎีกา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก