งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ถือเป็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดมาจากตำราในราชสำนักด้วยพิธีการสุมไฟ โดยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2560 เพจเฟซบุ๊ก คลังประวัติศาสตร์ไทย ได้มีการเปิดเผยประวัติและที่มาของงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มาเผยแพร่ให้คนไทยได้รับทราบถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
ทั้งนี้ การสุมเพลิงพระบรมศพโดยใช้ฟืนนั้น มีด้วยกัน 2 รูปแบบคือ การสุมเพลิงพระบรมศพบนพระจิตกาธาน (กรณีที่พระบรมศพอยู่ในพระบรมโกศ) โดนการสุมเพลิงรูปแบบนี้เป็นแบบโบราณราชประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า แต่ในปัจจุบันนี้ไม่พบว่ามีการถวายพระเพลิงพระศพบนพระจิตกาธานอีกแล้ว เนื่องจากควบคุมเพลิงได้ยาก จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยฉีดน้ำและควบคุมทิศทางลมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีการทำครั้งสุดท้ายในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2528
และอีกรูปแบบคือ การสุมเพลิงพระบรมศพบนพระจิตกาธาน (กรณีพระบรมศพอยู่ในหีบ) ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า เมื่อปี พ.ศ. 2539 ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำนักพระราชวัง ได้ว่างเว้นการถวายพระเพลิงพระบรมศพแบบที่ใช้ฟืนมานานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายคืองานพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ในวันพระราชพิธีเผาจริงนั้น เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว มีลมพัดตลอด ทำให้การจัดการเพลิงเป็นไปอย่างทุลักทุเล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งในขณะนั้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จขึ้นยังเมรุมาศเพื่อทรงฉีดน้ำที่ลุกไหม้ไปตามผนังเพดานพระเมรุมาศ นี่จึงเป็นปัจจัยที่ทางสำนักพระราชวังเปลี่ยนมาใช้เตาไฟฟ้าแทนการสุมเพลิงจากไม้จันทน์หรือเชื้อเพลิง
ส่วนการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2560 ได้ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สอดคล้องตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะเป็นการสุมเพลิงพระบรมศพในเตาไฟฟ้าแทน