
เรื่องราวเกี่ยวกับ พระเมรุมาศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าแผ่นดินนั้น อยู่คู่กับประเพณีไทยมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี ซึ่งปัจจุบัน พระเมรุมาศ ที่ใช้ในพระราชพิธีฯ ได้แก่ พระเมรุมาศทรงบุษบก ซึ่งมีประวัติและที่มาที่น่าสนใจ โดยต้นกำเนิดนั้นเริ่มมาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ทั้งนี้ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพของรัชกาลที่ 5 จึงมีการเปลี่ยนมาก่อสร้างพระเมรุมาศทรงบุษบก บนพื้นราบ ดัดแปลงอาคารปราสาทเป็นเรือนบุษบกบัลลังก์ หรือเป็นการขยายพระเมรุทอง ในปราสาทเป็นเรือนบุษบกบัลลังก์แต่เดิมให้ใหญ่ขึ้น แวดล้อมด้วยเมรุราย 4 ทิศ ลดรูปเป็นคดซ่าง ระเบียง ทับเกษตร อย่างไรก็ตาม ยังคงสถาปัตยกรรมวิจิตรงดงาม ถือเป็นต้นแบบพระเมรุมาศแบบใหม่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
จากนั้น พระเมรุมาศทรงบุษบก ได้ถูกนำมาใช้ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพองค์พระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่อมาทั้ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6, งานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 และงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ยกเว้น งานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่มีพระราชพิธี ณ สุสานในประเทศอังกฤษ
สำหรับพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นพระเมรุทรงบุษบก 9 ยอด วางผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร สูง 55 เมตร เท่ากับตึก 17 ชั้น การจัดสร้างพระเมรุมาศ ดำเนินการโดยกรมศิลปากร ถือเป็นพระเมรุมาศทรงบุษบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรอบ 100 ปี
ภาพจาก พระเมรุมาศรัชกาลที่ ๕, ๖ และ ๘ : หนังสือธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านาย






