
อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม วอนเลิกเรียกชาวมานิว่าเป็นซาไก เหตุแปลว่า ทาส แนะ ควรเรียกตามชื่อที่พวกเขาเรียกตัวเอง
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เฟซบุ๊ก Chainarong Sretthachau ของนายไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีการเขียนบทความเรื่องคำเรียกชาวซาไก มีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
มานิ ไม่ใช่ซาไก หรือเงาะป่าซาไก
วันนี้ พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ "มานิ" ได้เดินทางลงมาวางดอกไม้จันทน์ที่สตูลและพัทลุง ขณะที่สื่อบางฉบับเรียกพวกเขาว่า "ซาไก" หรือ "ชนกลุ่มน้อยซาไก"
ความจริงแล้ว ชื่อชาติพันธุ์ควรเรียกตามชื่อที่พวกเขาเรียกตนเอง เพราะความหมายจะต่างกันโดยสิ้นเชิง สำหรับคนกลุ่มนี้ พวกเขาเรียกตนเองว่า "มานิ" ที่แปลว่า "คน" หรือจะแปลว่า "พวกเรา" ก็ได้ ส่วนคำว่า "ซาไก" เป็นคำที่คนอื่นเรียก คำว่า "ซาไก" เป็นภาษามลายู แปลว่า "ทาส" ตรงกับคำว่า "ข่า" (ภาษาลาว) หรือ "ขี้ข้า" (หรือทาสา-ทาส ในภาษาขะแมร์) ที่พวกไท (รวมถึงไทย) และลาวใช้เรียกกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงในลุ่มน้ำโขง
คำว่า "เงาะป่า" ก็ควรตัดออกไป เพราะมีนัยของความล้าหลัง ไม่พัฒนา รวมถึงคำว่า "ชนกลุ่มน้อย" ด้วย เพราะมีนัยของการดูถูก และคำที่เป็นคำกลาง ๆ ที่ควรใช้ก็คือ "กลุ่มชาติพันธุ์" ตามที่นักมานุษยวิทยาเสนอ หรือเรียกว่า "ชนพื้นเมือง" ก็ได้ เพราะสอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิชนพื้นเมือง (ไม่ควรใช้คำว่า ชนเผ่าหรือชนเผ่าพื้นเมือง เพราะมีนัยของการดูถูกเช่นกัน)
สำหรับคำใต้ที่มีการใช้เรียก "มานิ" อีกคำคือ "ไอ้เกลอ" ที่ฟังดูแล้วใกล้ชิดกันมาก เพราะคำว่า"เกลอ" ในภาษาใต้แปลว่าเพื่อนรัก
ในปัจจุบัน การดูถูกเหยียดหยามชาว "มานิ" ยังพบได้บ่อย ๆ เช่น การนำ "มานิ" มาแสดงความเป็น "คนป่า" ให้คนชม ทั้งที่นั่นคือวิถีการผลิตของ "มานิ" ที่เป็นสังคมเก็บของป่าล่าสัตว์ (hunting and gathering)
สำหรับชาวมานิที่สตูลพวกเขาลงมาวางดอกไม้จันทน์เพราะพวกเขาได้รับสัญชาติไทย ขณะที่ยังมี "มานิ" อีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับสัญชาติ
เว็บไซต์ข่าวสำนักหนึ่ง ได้ระบุว่า นายไข่เล็ก ผู้นำกลุ่มซาไก ที่มาวางดอกไม้จันทน์ที่สตูลบอกว่า รู้สึกเสียใจในการจากไปของพ่อหลวง และภูมิใจในสิ่งที่พ่อหลวงให้แก่พวกเรา คือ บัตรประชาชน ที่ให้สิทธิเหมือนประชาชนทั่วไปในการรักษาพยาบาล และสิทธิของประชาชนเต็มขั้น
ผมได้แต่หวังว่า ต่อไปนี้ พวกเราจะเลิกเรียก "มานิ" ว่า "เงาะป่าซาไก" หรือ "ซาไก" และพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มจะได้รับสัญชาติ เพราะการไม่มีสัญชาติคือการไม่มีสิทธิความเป็นพลเมืองได้ทำให้สิทธิด้านอื่น ๆ หมดไปโดยปริยาย
ภาพจาก workpointnews






