ปัจจุบันคนไทยทิ้งขยะกันเป็นจำนวนมาก ขยะที่คนเราทิ้งกันนั้นบางชิ้นก็สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการทิ้งขยะรีไซเคิลไปกับขยะมูลฝอยอื่น ๆ นั้น เท่ากับว่าเรากำลังทิ้งเงินลงถังขยะ เพราะขยะรีไซเคิลเป็นขยะที่ขายได้ และยังสร้างรายได้ให้กับเราได้อีกด้วย

ที่ผ่านมาทาง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้สนับสนุนให้คนไทยลดปริมาณขยะมูลฝอย ด้วยการคัดแยกขยะ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ "ธนาคารขยะรีไซเคิล" โดยให้สมาชิกนำขยะรีไซเคิลมาฝาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารจะทำการคัดแยกและชั่งน้ำหนัก แล้วคำนวณเป็นจำนวนเงินออกมา โดยใช้ราคาที่ทางธนาคารประสานกับร้านรับซื้อของเก่าเป็นเกณฑ์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยแก้ปัญหาจากขยะมูลฝอย ที่อาจก่อให้เกิดพานะนำโรคต่าง ๆ ตามมาได้
1. แก้ว ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากทราย มีหินและโซดาเป็นส่วนผสม นำมาหลอมให้ขึ้นรูปเป็นภาชนะต่าง ๆ แก้วเป็นวัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ แต่สามารถหลอมทำใหม่ได้ ขวดแก้วเกือบทุกชนิดสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งขวดแก้วที่ไม่แตกจะได้ราคาสูงกว่าขวดแตก หรือเศษแก้ว โดยมีการรับซื้อในหลายราคา เช่น ขวดแก้วน้ำอัดลมขนาดใหญ่ รับซื้อในราคา 2 บาท, เศษแก้วสีขาว 2.15 บาท, ขวดน้ำปลา 70 สตางค์ เป็นต้น โดยจะมีการคัดแยกออกตามสี และคุณภาพของแก้ว ดังนี้
- ขวดแก้วดี คัดแยกตามประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่บริษัทผู้ผลิตสินค้ารับซื้อ เช่น ขวดน้ำปลา ขวดเบียร์ ขวดสุรา ขวดน้ำหวาน ขวดซอส ขวดโซดา วันเวย์ ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ขวดยา และขวดน้ำอัดลมต่าง ๆ การจัดการขวดเหล่านี้จะถูกกลับเข้าโรงงาน เพื่อนำไปล้างให้สะอาด และนำกลับมาใช้ใหม่ แก้วบางชนิดสามารถนำกลับมาล้างทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค แล้วหมุนเวียน นำมาบรรจุใหม่ได้ซ้ำอีกอย่างน้อย 30 ครั้ง
- ขวดแก้วแตก หรือเศษแก้ว คัดแยกตามสีแก้ว (แก้วสีขาวจะมีราคาดีที่สุด รองลงมาคือสีชาและสีเขียว) โรงงานอุตสาหกรรมจะนำเศษแก้วมาบดให้ละเอียด ใส่น้ำยากัดสีเพื่อกัดสีที่ติดมากับขวดแก้ว ล้างให้สะอาดแล้วนำส่งโรงงานผลิตขวดแก้ว เพื่อนำไปหลอมใหม่ ซึ่งในโรงงานอุตสาหกรรมต้องการเศษแก้วเก่าในอัตรา 30-40%




2. กระดาษ ในบรรดาขยะรีไซเคิลนั้น กระดาษเป็นวัสดุที่ย่อยสลายง่ายที่สุด เพราะผลิตจากเยื่อไม้ธรรมชาติ กระดาษทุกชนิดสามารถนำมารีไซเคิลได้ โดยกระดาษที่รับซื้อมาจากบ้านเรือนหรือแหล่งต่าง ๆ จะถูกส่งไปยังโรงงานกระดาษ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบผสมในการผลิตกระดาษประเภทต่าง ๆ กระดาษมีหลายชนิดและหลายคุณภาพ โดยกระดาษขาวสำหรับเขียนหรือกระดาษคอมพิวเตอร์ จะเป็นกระดาษที่มีคุณภาพสูงถูกนำมาแปรรูปเป็นกระดาษสมุดและหนังสือ ส่วนกระดาษหนังสือพิมพ์และกระดาษกล่องจะมีคุณภาพต่ำ จะถูกนำมาแปรรูปเป็นกระดาษสำหรับผลิตกล่องเครื่องดื่ม กระดาษห่อของขวัญ กล่องกระดาษแข็ง เป็นต้น โดยกระดาษที่ร้านของเก่ารับซื้อจะขายได้ในราคาระหว่าง 1.30-6.45 บาท แล้วแต่ชนิดของกระดาษนั่นเอง

3. พลาสติก เป็นวัสดุที่สังเคราะห์มาจาก ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมหรือน้ำมันดิบ เป็นขยะย่อยสลายยากมาก มีอายุยืนยาวจนเป็นอมตะ การรีไซเคิลจึงเป็นการจัดการขยะพลาสติกที่เหมาะสมที่สุด โดยพลาสติกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- พลาสติกที่คงรูปถาวรหรือพลาสติกเทอร์โมเซตติ้ง (Thermosetting Plastic) เป็นพลาสติกที่แข็งตัวด้วยความร้อนแบบไม่ย้อนกลับ สามารถขึ้นรูปผลิตภัณฑ์รูปทรงต่าง ๆ ได้โดยทำให้แข็งตัวด้วยความร้อนในแม่แบบ และเมื่อแข็งตัวแล้วจะมีความคงรูปสูงมาก เนื่องจากไม่สามารถหลอมเหลวได้อีก พลาสติกในกลุ่มนี้จึงจัดเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภท "รีไซเคิลไม่ได้"
- พลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) เป็นพลาสติกที่หลอมตัวด้วยความร้อน และกลับแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิลดต่ำลง พลาสติกชนิดนี้จัดเป็นวัสดุประเภท "รีไซเคิลได้" เพื่อให้ง่ายต่อการแยกชนิดบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อนำกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ


ทั้งนี้ ขยะมูลฝอยเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีค่า สามารถนำไปขายตามร้านรับซื้อมูลฝอย หรือผู้รับซื้อที่ใช้รถซาเล้งตระเวนรับซื้อตามบ้านเรือนในชุมชน โดยราคามูลฝอยมีค่าอาจมีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องหมั่นเช็กราคากลางจากผู้ซื้อ หรือจากเว็บไซต์ของบริษัท วงษ์พาณิชย์ www.wongpanit.com หรือเว็บไซต์ของสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม www.tipmse.or.th






