x close
hilight > ข่าวฮิตสังคมออนไลน์

พระมหาสีไพร เผยเรียนตอกเส้นจากเน็ต ลั่นทำเพื่อประชาชน-โวยรัฐไม่สนับสนุน

| 14,638 อ่าน

 

พระมหาสีไพร เผยเรียนการตอกเส้นรักษาหมอนรองกระดูกจากอินเทอร์เน็ต โวยรัฐบาลไม่สนับสนุน ลั่นให้เอาคนป่วยมาพิสูจน์ได้เลย

 

หลังโซเชียลมีการแชร์เรื่องราวการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทโดยพระอาจารย์มหาสีไพร อาภาธโร ประธานมูลนิธิโพธิ์รังสีตอกเส้น ๒๖oo ปี โดยมีการแชร์คลิปซึ่งกำลังตอกคลายเส้นให้กับหญิงสาวป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมา 7 ปี ซึ่งเมื่อรักษาด้วยการนวดตอกเส้นอาการกลับดีขึ้น และสามารถลุกนั่งได้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นจำนวนมากว่าเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวง และเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่

 

ล่าสุด (21 พฤศจิกายน 2560) รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดยหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30-21.00 น. ทางช่อง 28 ได้สัมภาษณ์พระมหาสีไพร พร้อม หมอนุ ลูกศิษย์ รวมถึง นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย

 

เคยไปเรียนกับอนาโตมี่หรือสรีระร่างกายมนุษย์มาจากไหน ?
พระมหาสีไพร : เราต้องยอมรับว่าการศึกษาสมัยนี้ เป็นยุค 4.0 อยู่ในโซเชียลมีเดีย

 

ไปเปิดตามอินเทอร์เน็ต ?
พระมหาสีไพร : โห มีทุกอย่างให้เราศึกษาได้หมด

 

แต่อันนี้ไปดูแล้วท่านก็ตอกได้เลย ไม่มีการผิดธรรมชาติเหรอ ?
พระมหาสีไพร : ไม่มีผิดธรรมชาติ เดิมทีคนเราปวดหลัง สมัยใหม่เรียกกระดูกทับเส้นประสาท สมัยเก่าเรียกผีเข้าก็ไปหาหมอผี หมอผีก็เอาหวายตี ๆ ๆ แล้วร้องโหยหวน หมอนรองกระดูกกลับเข้าที่แล้วก็ยกความดีให้ผี ทีนี้เรามาศึกษาว่าเรามาทำในเมื่อเป็นหมอนรองกระดูกเราก็มาทำท่ากายบริหาร ทำท่าตอกให้กล้ามเนื้อมันคลายแล้วล็อกให้ทุกอย่างเข้าที่เหมือนเดิมทุกอย่างมันก็หาย

เคยตอกคนตายไปสองคน ?
พระมหาสีไพร : ไม่ได้ตอกคนตาย นักข่าวพูดไม่ตรงประเด็น ถามว่าเคยตอกคนตายมั้ย อาตมาตอบว่าที่บอกมาในเหตุผลอาตมามีสองคนในประวัติศาสตร์ หนึ่งเขาเป็นลมตายเราไม่ได้ตอกเขาไม่กินข้าวเช้ามายังไม่ได้นวดอะไรเลย อีกคนก็ไม่ได้ตอก แต่ลูกศิษย์ตอกแล้วเขาบอกว่าเป็นเส้นเลือดตีบ กลับไปบ้านสามสี่วันคนโทรมาว่าไปตอกมาแล้วมันตาย เขาก็โทร. มาบอก

 

ทำไมไปสอนลูกศิษย์ได้ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีใบประกาศนียบัตรการเป็นครู ?
พระมหาสีไพร : ไม่ ในกูเกิลนี่เราเอาวิชาภาษาพูดให้ถูกต้องกับสิ่งที่เรารู้กับความรู้สึก พูดหลักวิชาการก็ไปเอาตำราอนาโตมี่อะไรต่าง ๆ มาพูดให้มันถูกต้อง อย่างกล้ามเนื้อนี่เราไม่รู้ว่าชื่ออะไรก็มาพูดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ เราช่วยเหลือคนแล้วมันหาย คนโน้นคนนี้ก็อยากมาปรึกษา อย่างปวดหัวจะตาย ก็สอน ๆ ให้ไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นพัฒนา สอนไปสามคน สอนต่อโครงสร้างหน้าตากระดูก

 

ทราบไหมว่ากระดูกต้นคอมนุษย์ ถ้าเคลื่อนเซนติเมตรเดียวอาจเสียชีวิต-กระดูกคอร้าวได้ ?
พระมหาสีไพร : เราก็ยังไม่เคยเจอนะ (หัวเราะ) มีคนมารักษาแล้วหาย
หมอนุ : หายครับ

 

พระไม่อยู่ที่วัดเหรอ ?
พระมหาสีไพร : เราเจ็บป่วยไมสบาย เรารักษาหายก็มาช่วยเหลือสังคม พออยู่วัดมันก็มีปัญหาว่าเราทำอย่างนี้อย่างนั้นไม่ได้ เราเลยย้ายวัดไปเรื่อย ๆ อยู่วัดช่วยคนไม่ได้ เลยย้ายวัดไปเรื่อย ๆ จนปี 2556 เลยมาซื้อที่อุทัยธานี สร้างเป็นศูนย์ปฎิบัติธรรมแล้วมาเปิดเป็นนวดตอกเส้น พยายามทำให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างแต่หน่วยงานราชการไม่ค่อยสนับสนุนเรา

 

ล่าสุดไปเปิดโรงเรียนสอนตอกเส้น ?
พระมหาสีไพร : ลูกศิษย์เขาไปเปิดที่อังกฤษ เขามาด้วยอาการเขาปวดทั้งตัวและทรมานมาก เขาดูในคลิปยูทูปเลยบินมาเมืองไทย มารักษาและหาย เขาเลยเอาไปสอนที่อังกฤษ ไปเปิดคลาสเรียน พวกฝรั่งเรียนเต็มเลย อาจารย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขามาขอเรียนแล้วเขากลับไปเปิดที่โน่น ที่เมืองไทยเราขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการเปิดที่ศูนย์ตอกเส้น สร้างเป็นโรงเรียนเสร็จแล้วเรียบร้อย ลูกศิษย์มีนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านคน เราอยากให้เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

 

เราทำถูกแล้วเหรอ ?
พระมหาสีไพร : กฎหมายมันเยอะ เมื่อก่อนเรายื่นขอจดสิทธิบัตร ยื่นไปยื่นมาปัดไปปัดมา จนเวลาผ่านไป 4 ปี

 

ทางสถาบันการแพทย์แผนไทยได้คุยมั้ย ?
พระมหาสีไพร : เราก็เข้าไปคุย เรามีเอกสารหมดเลย เขาก็ไม่รับรอง เพราะต้องทำการวิจัยก่อน เขาก็ไม่กล้าเซ็นรับรอง ไปยื่นแพทย์พื้นบ้านก็บอกว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เขาไม่มีอำนาจ จนสุดท้ายจะให้เราไปหาใคร

 

วันนี้รักษาที่ไหน ?
พระมหาสีไพร : ที่ปากเกร็ด นนทบุรี เป็นอวตาลคลินิก มีใบอนุญาตสถานประกอบการพร้อม

 

ล่าสุดหมอที่สำนักอาจารย์ถูกจับไป 5 คน ตอนนี้อยู่ สน.ปากเกร็ด ?
พระมหาสีไพร : ดีมากเลย (หัวเราะ) เราอยากทำให้เรื่องนี้ถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านมา 6 ปี รัฐมีหน้าที่ส่งเสริมประชาชนที่มีความสามารถ เพราะฉะนั้นตัวที่ผิดกฎหมายไม่ใช่อาตมา ไม่ใช่ลูกศิษย์ รัฐเป็นผู้ผิดที่ไม่ส่งเสริม

 

ไปคุยกับสำนักสถานพยาบาลกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือยัง ?
พระมหาสีไพร : เราก็คุย ก็ยังคาราคาซังว่าเราจะทำยังไงให้การตอกเส้นมันถูกกฎหมาย ทีนี้เขาก็ตอบว่ามันไม่มีในกฎหมายแล้วจะเอาเข้าไปประยุกต์ส่วนไหนของแพทย์แผนไทย จะให้อยู่ในแพทย์พื้นบ้าน แพทย์ทางเลือก หรือการแพทย์แผนไทยใช้อุปกรณ์

 

หลายคนถามนี่คือกิจของสงฆ์หรือเปล่า ?
พระมหาสีไพร : เราเห็นคนเจ็บคนป่วย เขารักษาด้วยการกินยา รักษาไม่หาย ไปโรงพยาบาล 5 ปี 10 ปีก็ไม่หาย เราจะค้นคว้าวิชาความรู้ที่ทำให้หายโดยไม่ต้องใช้ยา พึ่งพาตนเองได้ และสามารถประกอบอาชีพสุจริตโดยไม่ผิดศีลธรรม เราต้องการแค่นั้น

 

ตอนนี้โด่งดังมาก ไปท้าเรื่องอะไรมา ?
พระมหาสีไพร : อาตมาไม่ได้ท้า คือมีคุณโยมเขาเป็นโรคหมอนรองกระดูก เขาเอาใบรับรองมาแล้วทางอุตสาหกรรมเขาก็ลาออก เขาตกงานไม่รู้จะไปไหนแล้ว ก็บอกว่าขอเวลาไม่เกิน 10 นาที อาตมาก็ตอกเอง พิสูจน์ให้เองแล้วก็หายเดี๋ยวนั้น เคสนั้นไม่ผ่า โอ้โห มหาศาล แล้วอย่างอาจารย์มหาลัยแคมบริด คุณแดเนียลเป็นหมอนรองกระดูกมา 24 ปี ตอกครั้งเดียวหาย

แต่ที่แน่ ๆ มีคนแย้งมาว่าห้ามพระรักษาโรค ห้ามรับปัจจัย แล้วรับปัจจัยมั้ย ?
พระมหาสีไพร : รับปัจจัยเพื่อนำมาบริหารจัดการให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคม รักษาครั้งละ 300 เป็นคณะลูกศิษย์รับ เงินเป็นกองกลางบริหารจัดการ

 

ท่านไม่ได้รับ ?
พระมหาสีไพร : อาตมาเป็นผู้ดูแลให้ ไม่พอจ่ายให้ คนที่เขาหายป่วยเขาก็โอนมาช่วยเหลือ

 

ไม่ว่าจะสรีระร่างกายกระดูกเส้น ศึกษาได้จากกูเกิล ทุกอย่างหาดูได้จากกูเกิล ?
พระมหาสีไพร : เราชำนาญ ฟินแลนด์เขายกเลิกการศึกษาไปแล้วครับ เรายังเป็นเวอร์ชั่น 2.0 หรือ 1.0 อยู่เลย

 

สอบถามท่าน ผอ. กันบ้าง เรื่องราวตอกเส้นมีในแพทย์แผนไทยมั้ย ?
ผอ. : ในองค์ความรู้ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยเรา ในกลุ่มหมอพื้นบ้านพื้นที่ต่าง ๆ ก็มีวิชาตอกเส้นอยู่ เพียงแต่ว่าวิชาที่เขาใช้โดยหลักแล้วจะใช้ลักษณะของการส่งคลื่นการสั่นสะเทือนจากไม้ที่ตอกลงไปสู่อวัยวะของร่างกายคนไข้ไม่ใช่การตอกในลักษณะใช้แรงกระแทกคือตอกให้เหมือนเวลาเราเรียนวิทยาศาสตร์ คงเคยเห็นซ่อมเสียงเวลาเราเคาะที่ซ่อมเสียงจะมีแรงสั่น ถ้าเราไปจ่อกับเนื้อจะรู้สึกว่ามีคลื่น เวลาที่คุณหมอพื้นบ้านท่านตอก จะไม่ได้เอาไม้ไปจ่อแล้วกระแทกที่เนื้อ แต่เคาะแล้วจ่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนส่งเข้าไป เพราะฉะนั้นลักษณะการตอกเส้นที่หมอพื้นบ้านในภูมิภาคต่าง ๆ ใช้ในการแพทย์ของไทยก็คือมีความปลอดภัยไม่ได้ไปกระแทกโดยตรงที่อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของผู้ป่วย

 

ความอันตรายในเครื่องมืออันตรายมั้ย ?
ผอ. : ผมดูจากวิดีโอคลิป และการตอกกระแทกแรง ๆ อันนี้ที่เราเป็นห่วงก็คือเรื่องของถ้าผู้ป่วยท่านั้นมีกระดูกผุ กระดูกพลุน การตอกกระแทกอย่างนั้นก็อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายต่าง ๆ อาจมีกระดูกแตก กระดูกร้าว โดยเฉพาะบริเวณต้นคอ ถ้าตอกแรงมาก เผอิญข้อมันเคลื่อน อาจกระทบกระเทือนต่อไขสันหลัง ซึ่งบริเวณคอ ถ้าไขสันหลังถูกกระแทกถูกกระทบกระเทือน อาจอัมพาตทั้งตัวได้ ผมเห็นในวิดีโอตอนหนึ่งครับ

 

พระอาจารย์บอกว่าเคยติดต่อไปทาง ผอ. อยากขอจดสิทธิบัตรให้ถูกต้อง ?
ผอ. : คือในเรื่องขององค์ความรู้ ถ้าเป็นความรู้ที่บันทึกไว้ตามเอกสารตามคำคัมภีร์ มีการส่งต่อกันมา อันนี้เราจะพิจารณาว่าอาจมาศึกษาวิจัยเพิ่มเติมจะเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย แต่เราไม่ต้องไปวิจัยเพิ่มว่ามันจะใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลเพราะมีการสืบต่อกันมา แต่ฟังที่พระอาจารย์เล่าให้ฟัง ยังมีประเด็นว่าเรายังไม่ชัดเจนว่าความรู้นี้สืบต่อกันมาอย่างไร สิ่งที่เราเพิ่มเติมเข้าไปใหม่ต้องศึกษาวิจัยเพราะของใหม่เราไม่รู้ว่าคนโบราณใช้แบบนี้หรือเปล่าและมีผลอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งจากการรวบรวมหมอพื้นบ้านจะใช้แรงคลื่นสั่นสะเทือนมากกว่าที่จะส่งแรงกระแทก อันนี้ไม่เคยเห็นนะครับ

 

พระอาจารย์มีอะไรอยากถามอาจารย์ ?
พระมหาสีไพร : เราอยากให้ภูมิปัญญาตรงนี้ชัดเจนว่าเราจะทำได้ในระดับไหน เพราะคนป่วยมา 5 ปี 10 ปีเขาก็รอจะหาย สูญเสียทางธุรกิจมหาศาลคนทำเอ็มอาร์ไอมาแล้ว เอ็กซเรย์มาแล้ว เราก็มีกระบวนการตรวจสอบทุกอย่าง เราพยายามทำให้ถูกต้องทุกรูปแบบที่ผ่านมา เราส่งทุกอย่างทุกที่ เรามีเอกสารหมด แต่เขาก็ตีกลับมาคุณก็ต้องดูว่าคุณเห็นใจคนที่ป่วยมา 5 ปี 10 ปีมั้ย ให้เขาไปโรงพยาบาล ก็ให้ยามากิน เขาก็ป่วยแล้วก็ทำมาหากินไม่ได้ คนกลุ่มนี้มีเป็นล้านคน ที่ต้องการหาทางเลือก เรามีนวัตกรรมใหม่ ๆ มานำเสนอ แต่หน่วยงานไม่สนใจเราเลย เราต้องการให้ไปเรียนไปศึกษาที่หน่วยงานได้ก็ได้ เรายินดี

ผอ. : ถ้าหลักที่พระอาจารย์ว่า ถ้าให้ดีและคิดว่าจะให้เกิดเป็นสาธารณะประโยชน์ สาธารณกุศลท่านขอเข้าไปศึกษาวิจัย ภายใต้โรงพยาบาลของรัฐศึกษาในกูเกิลไม่ได้คือคณะของพระอาจารย์แทนที่จะออกมาเปิดเป็นมูลนิธิ เปิดเป็นคลินิกซึ่งตรงนี้มันมีข้อกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคความปลอดภัยของคนไข้ควบคุมดูแลอยู่ อันนี้จะเป็นการเสี่ยงทำผิดกฎหมาย ถ้าท่านคิดอยากจะทำเป็นสาธารณะกุศลจริง ๆ ควรมาหารือกับทางโรงพยาบาลเรามีตัวอย่างเยอะแยะ เช่น เป็นคนที่เป็น อสม. ก็ไปอบรมแล้วคุณหมอก็คอยกำกับดูแล สามารถไปเจาะเลือด ตรวจเบาหวาน ความดัน ทำหน้าที่เหมือนหมอคนหนึ่งได้เลย แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์

 

แต่เข้าไปทาง ผอ. ต้องมีการตรวจสอบว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ?
พระมหาสีไพร : พิสูจน์เอาคนเจ็บคนป่วยมาก็ได้

 

เรียกว่าท้า ?
พระมหาสีไพร : เราก็ต้องพิสูจน์ ต้องให้โอกาสกันเพื่อมาพัฒนาชาติบ้านเมืองของเรา

 

ณ วันนี้เลิกรักษาก่อนแล้วไปเรียนก่อนได้มั้ย ?
พระมหาสีไพร : ถ้าทำอย่างนั้นระบบเสียหายหมด ก็พิสูจน์กันมาว่าทำยังไงไอ้ตรงนี้ มหาชนมาพิสูจน์ เอาสื่อมวลชนมา มาตั้งเวทีเอาคนที่ป่วยมาพิสูจน์ให้ชัดเจนไปเลย ถ้ารัฐบาลไม่ส่งเสริมก็เลิกเลย

ผอ. กรณีแบบนี้ต้องมีการตรวจสอบมั้ย เข้าข่ายกระทำความผิดหรือเปล่า ?
ผอ. : คงมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๆ สองฉบับ ฉบับแรกคือพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ตรงนี้เป็นหน้าที่ของสำนักสถานพยาบาลและประกอบโรคศิลปะเขาเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่มีภารกิจที่จะต้องควบคุมดูแลให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ป่วย สำนักสถานพยาบาลและสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีในพื้นที่คงได้เข้าไปตรวจสอบ
พระมหาสีไพร : วันนี้เขาเข้าไปตรวจสอบก็ดีมาก

 

ถ้าผิดจริง ไม่อนุญาตขอให้หยุดทำ สึกไปเลยได้มั้ย ?
พระมหาสีไพร : เดี๋ยวนี้เลยก็ได้ครับ จีวรนี่เราอยู่เพื่อศาสนา อยู่เพื่อมหาชน 30 ปี เราอยู่เพื่อศาสนา แต่วันนี้เราอยู่เพื่อมหาชน เราไม่อยากให้คนเจ็บคนป่วยทุกข์ทรมาน เราพร้อมเสียสละตัวเอง ไม่เป็นไร เดี๋ยวอาตมาจะไปยื่นฏีกาถวาย

 

ถ้ารักษาต่อไปไม่รับเงินได้มั้ย ?
พระมหาสีไพร : ไม่รับเงินก็ได้ แต่ขอเป็นยอดบริจาค ไม่งั้นทำงานไม่ได้ จะเอาข้าวไหนกิน ถ้าคนจนมีเงิน 30 บาท ถ้าไม่มีก็ติดต้นผ้าป่า ก็รักษาให้เดี๋ยวนั้นเลย ไม่เก็บเงินก็ได้ เราอยากขอหน่วยงานราชการเป็นตัวคัดกรองดูว่าทำได้มั้ย เอาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดหรือหน่วยงานต่าง ๆ มานั่งดูกันเลย
ผอ. : ก็ต้องเรียนอย่างนี้ มีคนที่เสนอแนวคิดอะไรต่าง ๆ แบบนี้ มียาตำราเยอะ จะให้ราชการไปรับรอง ทุกเรื่อง คงทำไม่ได้ แต่ผมเรียนเริ่มต้นว่าเท่าที่เห็นคิดว่าอันตรายครับ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พระมหาสีไพร เผยเรียนตอกเส้นจากเน็ต ลั่นทำเพื่อประชาชน-โวยรัฐไม่สนับสนุน อัปเดตล่าสุด 21 พฤศจิกายน 2560 เวลา 23:46 14,638 อ่าน
TOP