หมอทหาร เปิดความจริงอีกด้านของการซ่อม และทำไมทหารจึงเชียร์การธำรงวินัย


การธำรงวินัย

          เปิดความจริงอีกด้าน หมอทหารเผย คนทั่วไปยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการซ่อม แท้จริงมีมาตรการป้องกันการเล่นนอกเกม บอกการซ่อมคือการฝึกจิต ฝึกให้ทำตามคำสั่ง ไม่ว่ามันจะงี่เง่าแค่ไหน แต่ถ้าเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งก็ต้องทำ เพื่อผลิตทหารไปใช้ในสนามรบ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ภูมิใจ

          เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของน้องเมย หรือ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่ตอนนี้ ทั้งทางครอบครัวและสังคมยังคงคาใจเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต และยังไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่างชัด นำมาซึ่งประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างจากหลาย ๆ ฝ่าย

          ล่าสุด (25 พฤศจิกายน 2560) เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ได้เผยแพร่ข้อความจากแพทย์ทหารรายหนึ่ง ที่เคยได้ไปอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มา 2 ปี จึงอยากออกมาอธิบายความอีกด้านเกี่ยวกับการซ่อม หรือการธำรงวินัย ที่เชื่อว่าสังคมยังเข้าใจผิดอยู่ มีจุดที่เข้าใจไม่ตรงกันอยู่ระหว่างฝ่ายทหารและประชาชนทั่วไป โดยนายแพทย์ทหารรายนี้ได้เผยว่า การซ่อมมีมาตรการป้องกันการเล่นนอกเกม ยกตัวอย่างสถาบันที่ตนจบมา การทำโทษต้องรายงานเป็นจำนวนครั้ง ในแต่ละวัน ว่าสั่งท่าอะไร รวมกี่ครั้ง มีการประเมินตนเองโดยให้ตรวจดูสีปัสสาวะ แล้วรายงานหัวหน้ากองร้อย ใครสีเข้มกว่า สีเหลืองอ่อน ๆ โดนพาไปเจาะเลือดทุกราย ใครปวดกล้ามเนื้อมัดใหญ่มากกว่า 2 มัด ก็โดนด้วย อีกทั้งยังมีธงสีต่าง ๆ บอกระดับความชื้น ป้องกันการเกิดฮีตสโตรก โดยจะเห็นได้เลยว่า ร่วมสิบกว่าปี ไม่มีการสูญเสียจากการซ่อมอีกเลย เพราะมีมาตรการเหล่านี้อยู่ ชัดเจนมาก

          ซ่อม ไม่ใช่ ซ้อม และไม่ใช่ฝึก ตรงตัวคือใช้ทำโทษกับนักเรียนทหาร เวลาทำผิดระเบียบ ซ่อมมักจะทำเป็นส่วนรวมคือ ผิดคนเดียว รับโทษร่วมกันหมด คนที่ผ่านครั้งแรก ๆ จะรู้สึกโกรธ โมโหว่าเราไม่ได้ผิดอะไรเลย แล้วมาทำโทษเราได้อย่างไร แต่พอทำไปเรื่อย ๆ กลับเป็นความรู้สึกรักพวกพ้องนะ โทษก็จะหนักหนากว่าสิ่งที่ควร เช่น เดินแถวแล้วเท้าไม่พร้อม จำได้ว่าโดนเป็นร้อย วันที่หนัก ๆ โดนเป็นพันก็เคย ตอนนั้นก็เหนื่อย รู้สึกแย่ แต่พออาบน้ำพักผ่อน ก็หายเหนื่อย ความภูมิใจที่เราผ่านวันนั้นมาได้ มันคงอยู่ เอามาเล่าให้ลูกฟังว่าครั้งหนึ่งก็เคยผ่านแบบนี้มา
การธำรงวินัย

          นอกจากนี้ นายแพทย์ทหารรายนี้ยังเคยไปฝึกร่วมกับ จปร. 1 สัปดาห์ รู้สึกเลยว่า มันหนักมากกว่านี้ เคยถามว่า ไหวกันไหม หนักแบบนี้เป็นปกติหรือเปล่า ผู้กองที่ดูแลก็บอกว่า เขาฝึกนักรบ เขาฝึกให้แกร่ง เวลาโดนจับเป็นเชลย มันหนักหนาสาหัสกว่านี้มาก นักเรียนนายทหารหลัก ถึงฝึกหลักสูตรส่งทางอากาศและจู่โจมผ่านกันหมด เพราะเขาฝึกให้แกร่งกันแบบนี้ตั้งแต่แรก

          นายแพทย์ทหารรายนี้ กล่าวว่า "หัวใจของการซ่อมมันเป็นการฝึกจิตใจ ฝึกให้ทำตามคำสั่ง ไม่ว่ามันจะงี่เง่า ห่วยแตกแค่ไหน แต่ถ้าเป็นผู้บังคับบัญชาสั่งมา มันก็ต้องทำ ถึงได้สามารถผลิตคนให้ออกไปรบได้ ให้ออกไปสละชีวิตในแนวหน้า แทนประชาชนที่ด่าพวกเขาอยู่นี่ไงครับ ถ้าแค่บอกเฉย ๆ ว่า ออกไปรบกับข้าศึก คนที่ไม่ได้ฝึกมา คิดว่าเขาจะไปไหม"

          สุดท้าย ยังได้ยกตัวอย่างกรณีแพทย์ทหารใน 3 จังหวัดชายแดน บอกว่าแต่ละปีจะมีหมอพลเรือนจำนวนหนึ่ง สมัครเข้ารับราชการเป็นแพทย์ทหาร พอจบแพทย์เพิ่มพูนทักษะ 1 ปี ก็ลงประจำหน่วยรบ เวียนกันลงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ แต่นับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ยังไม่มีแพทย์ที่จบจากสถาบันอื่น ลงประจำหน่วยรบใน 3 จังหวัดชายแดนเลยสักคนเดียว ซึ่งอยู่ที่ว่าหน่วยงานไหนจะต้องลง และหากแพทย์เหล่านั้นรู้ตัวว่าจะต้องลง ก็จะลาออกกันหมด

          "โรงเรียนนี้เขาฝึกออกมาเป็นทหารนะครับ ต้องฝึกคนที่ใช้ในสนามรบได้ สั่งแล้วทำ ยึดถือภารกิจ แม้คำสั่งนั้นจะดูไม่เข้าท่า ก็ต้องทำ" นายแพทย์ทหารรายนี้ กล่าว


          อย่างไรก็ดี ภายหลังจากทางเพจได้มีการเผยแพร่ข้อความดังกล่าวออกมา ก็เกิดเป็นกระแสที่วิจารณ์ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ต่างพากันเข้าไปคอมเมนต์ไม่เห็นด้วย โดยท็อปคอมเมนต์ระบุว่าตนก็เป็นแพทย์เช่นกัน ในกรณีน้องเมยลักษณะการเสียชีวิตเหมือนผิดธรรมชาติ หมอไม่ได้มีหน้าที่มาบอกว่าใคร ๆ ก็ทำกัน อีกทั้งยังเป็นการเสียชีวิตในโรงเรียน ควรจะหาตัวคนผิดมารับโทษ เช่นเดียวกับคอมเมนต์ส่วนใหญ่ที่เห็นว่า นายแพทย์ทหารรายนี้กำลังหลงประเด็น ประเด็นที่สังคมกำลังคาใจคือ รุ่นพี่ซ่อมรุ่นน้องเกินเหตุ แล้วน้องเมยเสียชีวิตด้วยเหตุใด...

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Drama-addict
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอทหาร เปิดความจริงอีกด้านของการซ่อม และทำไมทหารจึงเชียร์การธำรงวินัย อัปเดตล่าสุด 27 พฤศจิกายน 2560 เวลา 12:24:15 24,901 อ่าน
TOP
x close