
จากข่าวลอตเตอรี่หายซึ่งเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วก่อนหน้านี้ สำหรับ นางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น ที่ระบุว่า หวย 30 ล้านของเธอถูก นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา เอาไป จนนำมาซึ่งการพิสูจน์ ก่อนที่เรื่องจะถึงขั้นตอนให้ศาลตัดสิน ขณะที่ต่อมา ป้าติ้น เผยอีกว่า ถูกขโมยหวย 30 ล้านไปอีกครั้งโดยคนที่ชื่อว่า ป้าติ๋ว ส่วนล่าสุด ป้าดา เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะทำกันเป็นขบวนการนั้น (อ่านข่าว : ป้าดา คดีขโมยหวย 30 ล้านปี 59 พร้อมให้ตรวจสอบ เชื่อเรื่องนี้ทำเป็นขบวนการ)
ป้าติ้น กล่าวว่า ตนมั่นใจในหลักฐานว่า ป้าดา ยักยอกทรัพย์ไป ซึ่งตนดีใจที่กองปราบปรามจะรื้อคดี โดยมั่นใจว่าสลากมีชื่อตนเขียนอยู่ แต่ถูกขีดฆ่าลบไป ส่วนอีกกรณีกับ ป้าติ๋ว ตนได้แจ้งตำรวจแล้ว แต่ก็ยังไม่คืบหน้า จึงเตรียมจะยื่นฟ้องศาลด้วยตนเองเช่นกัน ซึ่งทั้งสองกรณี ป้าดา และ ป้าติ๋ว เป็นเพื่อนกัน มองว่าอาจทำเป็นขบวนการ ซ้ำยังให้ข่าวว่า ตนเป็นแก๊งตบทรัพย์ ทำให้ตนเสียความรู้สึก แต่เชื่อว่าคนที่เอาไปนั้นรู้อยู่แก่ใจ ที่ตนถูกหวยทั้งสองรอบเป็นเพราะโชคดี แต่อาจเป็นทุกขลาภ ได้มาจึงถูกโกงไป
ต่อมามีรายงานว่า ป้าดา ผู้ถูกฟ้องปมหวย 30 ล้าน ถูกศาลกำหนดหักประกันไว้ที่ 500,000 บาท แต่เจ้าตัวนั้นเตรียมมาแค่ 200,000 บาท ทำให้หลักทรัพย์ที่นำมาไม่เพียงพอ ส่งผลให้ ป้าดา ไม่ได้รับการประกันตัว และถูกฝากขังไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี ทันทีในวันดังกล่าว
ป้าเล็ก เพื่อนของ ป้าติ้น ให้สัมภาษณ์ว่า ความจริงก็คือความจริง เรื่องที่ ป้าดา ไม่มีเงินประกันตัวนั้น ตนไม่เชื่อว่า ป้าดา ไม่มีเงิน เพราะตนเห็นป้าดาไปออกรายการ เคยพูดว่ามีสามีชาวต่างชาติ ทำงานมั่นคง ฐานะดี มีร้านสปาเป็นของตัวเอง ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ ป้าดา จะไม่มีเงินประกันตัว ตนคิดว่า ป้าดา กำลังสร้างภาพว่าตัวเองไม่มีเงิน
ขณะที่ นายปรัชญา คล้ายชูช่วย หัวหน้าฝ่ายมูลนิธิช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ซึ่งเป็นทนายความของ ป้าดา เผยว่า ป้าดา ไม่มีหลักทรัพย์ที่นำมายื่นประกันตัวจริง ๆ ซึ่งตอนนี้ได้ติดต่อให้ญาตินำโฉนดที่ดินไปประเมินราคา แล้วนำมาเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัววันนี้ (15 ธันวาคม) หากได้รับการประกันตัว ศาลจะนัดมาสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อในวันที่ 18-19 เมษายน 2561 พร้อมชี้แจงว่าขณะนี้ครอบครัว ป้าดา ค่อนข้างลำบาก ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง

ส่วนในเรื่องคดีความ นายปรัชญา ระบุว่า ป้าติ้น ได้ยื่นเอกสารคำให้การของพยานพ่อค้าขายลอตเตอรี่ ที่อ้างต่อพนักงานสอบสวนชุดแรกว่า จดจำเลขสลากได้ทั้ง 6 หลัก และได้ขายหวยชุดนั้นให้กับ ป้าติ้น แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนชุดต่อมา พ่อค้าได้กลับคำให้การว่า จำได้เพียงเลข 3 ตัวหลัง ภายหลังฝ่าย ป้าติ้น ยังกล่าวอ้างต่อศาลว่าพยานรายนี้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนค่อนข้างมั่นใจว่า คดีนี้มีโอกาสสูงที่จะชนะคดี และหากศาลยกฟ้องในคดีนี้ ฝ่ายตนจะดำเนินคดีฟ้องกลับ ป้าติ้น ในข้อหาแจ้งความเท็จ และเบิกความเท็จ
ด้าน นายเอ (นามสมมติ) ลูกชายป้าดา กล่าวว่า ครอบครัวไม่ได้มีฐานะร่ำรวยตามที่อีกฝ่ายอ้าง ยังติดหนี้ธนาคาร ต้องผ่อนบ้าน โดยหลังจากที่เกิดคดีธุรกิจส่วนตัวก็แย่ ครอบครัวแทบไม่มีเงิน ตนต้องกินบะหมี่สำเร็จรูป ไม่ได้ไปกินอาหารดี ๆ แบบคนอื่นเขา และต้องหาเลี้ยงตัวเองในการทำงานพาร์ทไทม์ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว หากครอบครัวตนถูกรางวัลจริงก็คงเอาเงินไปประกันตัวแม่แล้ว

ลูกชายป้าดา เล่าว่า แม่ของตนเป็นคนดี ไม่ได้เป็นแบบที่เขากล่าวหา แต่ยอมรับว่าแม่มักชอบซื้อลอตเตอรี่มาหลายปี เคยห้ามให้ลดแต่ก็ไม่ฟัง ทุกครั้งที่แม่เอาลอตเตอรี่มาตรวจ ตนก็จะอยู่ด้วย แต่ตนก็ไม่เคยเห็นลอตเตอรี่ชุด 30 ล้านแต่อย่างใด พร้อมฝากถึง ป้าติ้น และ ป้าเล็ก ว่า ตนรู้สึกแย่ที่มาทำกับแม่แบบนี้ อยากให้หยุดได้แล้ว จะเอาอะไรจากแม่อีก ตอนนี้ครอบครัวตนแย่มาก ถ้าถูกจริงแม่คงแบ่งให้ ป้าติ้น และ ป้าเล็ก ไปนานแล้ว แต่นี่แม่ตนไม่ได้ถูกลอตเตอรี่แต่อย่างใด
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ตั้งข้อสังเกตว่า คดีชิงหวยรางวัลที่ 1 ซึ่งมีมูลค่าสูง ดังนั้นการเรียกหลักทรัพย์ขอประกันตัวจึงค่อนข้างสูงตาม จึงอาจเป็นช่องโหว่ทำให้กลุ่มขบวนการนี้เข้ามาไกล่เกลี่ยเจรจาให้ผู้ที่ถูกกล่าวหายอมรับสารภาพได้ แต่คดีนี้ไม่ชี้ชัดว่าเป็นขบวนการหรือไม่ เพราะ ป้าดา ผู้ถูกกล่าวหา ยืนยันว่าไม่มีหวยอยู่จริง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







