
เผยเรื่องราวเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ กองกำลังทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 พร้อมใจกันพักรบ วางอาวุธแล้วเดินหน้าเข้าหากัน เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลวันคริสต์มาส
สงครามมีแต่ความสูญเสีย ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้กระทั่งตัวทหารเอง พวกเขาไม่ได้กระหายสงคราม แต่ด้วยภาระและหน้าที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องยอมเสียสละเพื่อประเทศของตน โดยสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือที่เรียกกันว่า มหาสงคราม (The Great War) นับเป็นสงครามที่แสนเลวร้ายในประวัติศาสตร์มนุษย์ ทหารและพลเรือนจำนวนหลายล้านต้องสังเวยชีวิตอย่างน่าเศร้า แต่ท่ามกลางสมรภูมิรบที่ดุเดือดนั้น ได้มีเรื่องราวชวนน่าประทับใจเกิดขึ้น และได้กลายเป็นหนึ่งสิ่งสวยงามอันน่าเหลือเชื่อ ท่ามกลางสงครามอันแสนเลวร้าย ที่โลกได้จารึกมาถึงทุกวันนี้

ทว่าเมื่อถึงวันคริสต์มาส อีฟ วันที่ 24 ธันวาคม ในปีนั้น กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ตลอดแนวรบด้านตะวันตก ต่างพร้อมใจกันวางอาวุธหยุดยิงชั่วขณะ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลพิเศษด้วยกัน เท่าที่จะสามารถทำได้ โดยทหารแนวหน้าของแต่ละฝ่ายเริ่มปลดอาวุธแล้วยอมเสี่ยงเดินออกจากที่หลบภัย เข้าไปพบหน้ากับฝ่ายศัตรูในพื้นที่ที่เรียกว่า No Man's Land คือพื้นที่อิสระที่ไม่มีฝ่ายใดครอบครอง

หลังจากนั้นภาพน่าทึ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ก็เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ท่ามกลางแนวหน้าสมรภูมิรบที่เคยเป็นหลุมฝังศพของเหล่าทหาร บัดนั้นได้เปลี่ยนเป็นพื้นที่แห่งมิตรภาพ จากศัตรูที่ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งจะพยายามเอาชีวิตอีกฝ่าย กลับพากันเข้าจับมือพูดคุยกัน ร้องเพลงเต้นด้วยกัน และรับประทานอาหารร่วมกัน ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน อันเป็นที่มาของชื่อเรียกเหตุการณ์ที่ว่า การพักรบคริสต์มาส (The Christmas Truce)
ในจดหมายฉบับหนึ่งของทหารอังกฤษ ที่ส่งถึงหนังสือพิมพ์และคนรัก ได้บรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นว่า "ในช่วงวันคริสต์มาสพรรคพวกของเราและฝ่ายเยอรมัน ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองเวลาแห่งความสุขด้วยกัน อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนของขวัญและของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แก่กันด้วย" นอกจากนี้ในจดหมายของนายทหารอังกฤษอีกฉบับที่เขียนถึงคนรักได้เผยว่า "ผมได้มีเทศกาลคริสต์มาสที่วิเศษที่สุด"

ข้อความในจดหมายของทหารอังกฤษ ที่ถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 5 มกราคม ปี 2548 ระบุใจความว่า "พวกเราทั้งหมดนี้ต่างโหมกระหน่ำยิงใส่กันตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม แต่กลับมาเฉลิมฉลองอยู่ร่วมกันได้เพราะความมหัศจรรย์ของวันคริสต์มาส... สันติภาพในอนาคตนั้น มันเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่เกินไป เมื่อทั้งสองประเทศมหาอำนาจต่างเกลียดชังซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายต่างกลายเป็นศัตรูที่เกลียดและเคียดแค้นกัน แต่ในวันคริสต์มาสนี้ สิ่งเหล่านั้นได้กลายเป็นเสียงดนตรี ได้วางอาวุธหันมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน และภาวนาให้อีกฝ่ายพบเจอกับความสุข"

อย่างไรก็ดี เรื่องราวความสวยงามแห่งมิตรภาพระหว่างศัตรู ภาพท่ามกลางสนามรบนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าพอใจสำหรับผู้บังคับบัญชากองทัพของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ไม่ยอมรับการกระทำของเหล่าทหาร โดยบางหน่วยมีการสั่งลงโทษทหารหรือมีการส่งไปอยู่ที่แนวรบส่วนอื่น และในสงครามหลังจากนั้น ก็ไม่มีการพักรบเกิดขึ้นอีกเลย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านเนิ่นนานมาร่วมร้อยปี แต่ทุกวันนี้ทหารของเยอรมันและอังกฤษก็ยังมีประเพณีไปเตะฟุตบอลร่วมกันเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น นับเป็นภาพแห่งสันติสุข ที่ทหารผู้เสียสละในอดีตเหล่านั้น ต่างอธิษฐานด้วยความหวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริงในวันหนึ่ง...
ข้อมูลจาก mentalfloss.com
ภาพจาก wsws.org, lescarnetsdefrederic, histoire-passy-montblanc