คลิปรถเมล์ ปอ.6 ทะเลาะกันกลางถนน ล่าสุด..ต่างฝ่ายต่างโต้ ยันตัวเองถูกหาเรื่องก่อน-ขนส่งจ่อเรียกตัวสอบแล้ว
สืบเนื่องจากเฟซบุ๊ก FillcEo Kub ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอโชเฟอร์และกระเป๋ารถเมล์ สาย ปอ.6 ทะเลาะวิวาทกลางถนนเจริญนคร กทม. หลังมีการขับชนท้ายกัน นำมาซึ่งกระแสวิพาษ์วิจารณ์นั้น
ล่าสุด (5 มกราคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายชาญณรงค์ จงมี หรือก้าน คนขับรถเมล์คันที่ถูกชน เผยว่า ตนเองขับรถมาตามปกติ ซึ่งวันนั้นสังเกตเห็นรถคู่กรณี คือรถของนายสมชาย บวรศิริกาลกุล หรือหมู ที่ขับแข่งมากับรถอีกคัน จนมาถึงป้ายรถเมล์วัดสุวรรณ ตนจอดส่งผู้โดยสาร รถของนายสมชายก็ขับมาจอดเช่นกันแต่อยู่อีกเลน ตนเองก็ไม่ได้อะไร พอขับมาถึงบริเวณกลางสะพานคลองสาน นายสมชายกลับขับมาชนท้ายตน ซึ่งเมื่อตนลงไปถามว่า "มึงขับชนท้ายกูทำไม" นายสมชายกลับพูดย้อนทำนองเอาเรื่องเก่ามาเถียง จนเกิดมีปากเสียงตามในคลิป และหลังจากนั้น มีเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าไกล่เกลี่ยที่โรงพัก นายสมชายก็ยอมรับว่าตั้งใจขับชนจริง ๆ
นายชาญณรงค์ เผยอีกว่า ตนเองไม่เคยมีปัญหากับคู่กรณี มีแต่นายสมชายที่ค่อนข้างมีปัญหากับคนอื่นอยู่บ่อย ๆ และในตอนนั้นตนเองก็โมโหมาก แต่ไม่กล้าทำอะไร เพราะอีกฝ่ายลงมาจากรถพร้อมอาวุธเป็นเกียร์เหล็ก ท่อแป๊ปที่เหลาเป็นปากฉลาม และได้ถามกลับมาที่ตนว่าอยากตายใช่ไหม
ด้าน นางพรรัตน์ เทียรสวัสดิ์ หรืออ้วน กระเป๋ารถเมล์สายของนายชาญณรงค์ เผยว่า ตอนนั้นตนเองก็โมโหเหมือนกัน จึงได้ลงไปต่อว่าทำไมถึงชน เรื่องส่วนตัวคือส่วนตัว เรื่องงานคืองาน ไม่เกี่ยวกัน ผู้โดยสารก็เยอะ ทำไมไม่เกรงใจเขา พร้อมกับห้ามปรามเพราะอีกฝ่ายมีอาวุธ และยืนยันว่าฝ่ายนายสมชายเป็นคนเริ่มด่าก่อน แต่หลังจากคลิปออกไป ตนเองกลับเป็นฝ่ายถูกต่อว่า หาว่าแอบชอบนายชาญณรงค์ จึงออกรับแทน ซึ่งไม่ใช่ ตนเองแค่เข้าห้ามปราม เพราะตนเป็นกระเป๋ารถเมล์ ตนไม่เคยมีประวัติทะเลาะกับใคร ต่อไปหากเกิดเรื่องอีกก็คงไม่ยุ่ง ไปเจรจากันเอาเอง ตนเองคงต้องไปทำบุญล้างซวยแล้วหลังจากนี้
ขณะที่นายสมชาย บวรศิริกาลกุล หรือหมู และนางสุพัตรา บวรศิริกาลกุล หรือแนน คู่กรณี เผยว่า ตนเองเชื่อว่านายชาญณรงค์ ตั้งใจแกล้งให้ตนชนท้าย คือพยายามเบรกรถกะทันหัน เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังขยับรถออกเพื่อไปส่งผู้โดยสาร นายชาญณรงค์กลับหักรถออกมา ทำให้เฉี่ยวชนเข้ากับกระจกรถของนายชาญณรงค์ โดยนายชาญณรงค์ นัดให้ไปเคลียร์ที่ท่าน้ำที่อู่รถพระประแดง แต่พอไปเจอก็ไม่ได้มีการพูดคุยหรือตกลงอะไร จึงเชื่อว่าคงยังติดใจอยู่ และนำมาซึ่งเรื่องราวดังกล่าว
ตนเองไม่อยากมีเรื่องกับใคร อยากทำงานหาเงินเท่านั้น ตอนเกิดเรื่องตนเองยอมรับว่าโมโหมากจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จึงไม่ได้กล่าวขอโทษผู้โดยสารทั้งที่อยากขอโทษมาก รวมถึงนายชาญณรงค์ด้วย ตนเองก็อยากขอโทษ ตั้งแต่ตอนที่เจ้าหน้าที่เรียกตัวไปไกล่เกลี่ย แต่คู่กรณีทำหน้านิ่งใส่ ตนจึงไม่อยากพูดอะไร
นางสุพัตรา ทิ้งท้ายว่า ตนเองยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นคนเริ่มด่าก่อน ทำให้นายสมชาย แฟนของตนเองโมโห จึงคว้าเอาด้ามจับเกียร์ลงไปด้วย
เบื้องต้น นายสมชายและนางสุพัตรา ถูกต้นสังกัดสั่งพักงาน พร้อมกับต้องชำระค่าเสียหายทั้งหมดให้เจ้าของอู่ด้วย
