วันที่ 8 มกราคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานเหตุการณ์สลดสังคมที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในเขตหนิงเต๋อ มณฑลเจียงซี ประเทศจีน เมื่อนักเรียนหญิงชั้น ม.1 กลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันรุมทำร้ายเพื่อนร่วมชั้นภายในหอพัก เพราะไม่พอใจที่เพื่อนคนนี้แอบไปฟ้องครูว่ามีเพื่อนในกลุ่มนี้แอบสูบบุหรี่ที่โรงเรียน
รายงานเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2561 ในขณะที่ เด็กหญิงเจิ้ง วัย 13 ปี กำลังนอนหลับพักผ่อนที่หอพักหญิงของโรงเรียนสือหยวน ก็มีเพื่อนร่วมชั้น 7 คน บุกเข้ามากระชากผมเธอขึ้นจากที่นอน ก่อนจะลงมือตบหน้าจนปากแตก แถมยังบังคับให้เธอคุกเข่าลงต่อหน้า แล้วก็เริ่มต้นการกลั่นแกล้งด้วยวิธีรุนแรง
จากคลิปที่คนในกลุ่มอัดไว้ เผยให้เห็นว่ามีนักเรียนหญิงรายหนึ่งทั้งตบและตะโกนใส่หน้าเจิ้งว่า "แกจะไม่โดนแบบนี้ถ้าไม่ไปฟ้องครู แกมันน่ารังเกียจ"
จากนั้นอีกคนก็เข้ามาเตะ และกระทืบหลังของเจิ้งอีกหลายครั้ง พร้อมบอกว่า "ดูสิว่าฉันดีกับแกแค่ไหน นี่ฉันช่วยนวดให้แกอยู่นะ"
ทั้งนี้เดิมทีคลิปดังกล่าวถูกนำมาส่งต่อกันในกลุ่มแชทของเด็กในโรงเรียน ก่อนที่มันจะแพร่กระจายไปบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนมีกลุ่มผู้ปกครองของเด็กในโรงเรียนมาเห็นเข้า พวกเขารับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นและรีบแจ้งเรื่องไปทางตำรวจ
ขณะที่พ่อแม่ของเจิ้งซึ่งได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ก็ได้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังกรมการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้รีบเข้ามาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่การทำโทษนักเรียนที่ก่อเหตุทั้ง 7 คนในที่สุด โดยรายงานเผยว่านักเรียนต้นเรื่อง 3 คน ที่เป็นผู้แอบสูบบุหรี่และถูกเจิ้งนำไปฟ้องครู ได้ถูกสั่งกักบริเวณแล้ว ในขณะนักเรียนอีก 4 คนที่เหลือนั้นถูกลงโทษด้วยการตักเตือน นอกจากนี้นักเรียนที่ก่อเหตุทั้ง 7 คนจะถูกเรียกพบผู้ปกครองด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เจิ้งยังได้ถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และจะได้รับคำปรึกษาจากครูต่อไป อย่างไรก็ตามแม้ว่านักเรียนที่ก่อเหตุจะถูกทำโทษแล้ว แต่ชาวเน็ตกลับยังไม่พอใจเพราะมองว่าบทลงโทษของเด็กเหล่านี้นั้นดูจะเบาเกินไปเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่กระทำ โดยมีชาวเน็ตรายหนึ่งชี้ว่าควรส่งเด็กเหล่านี้เข้าสถานพินิจ แทนที่จะทำโทษเบา ๆ แค่การกักบริเวณ หรือตักเตือนด้วยวาจาเท่านั้น