ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แนะดีเอสไอตรวจสอบข้อมูลจากคอมพ์ แทนตู้เซฟ อาจได้หลักฐานเด็ด ยันตัวเจ้าของจริง ๆ ยังลอยนวล ป๋ากบ ที่จับได้ เป็นแค่คนเชียร์แขกเท่านั้น
วันที่ 15 มกราคม 2561 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยถึงเรื่องราวหลัง "วิคตอเรียซีเครท" อาบอบนวดชื่อดัง ถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ บุกตรวจค้นและสามารถจับกุมตัวนายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ เจ้าหน้าที่เชียร์ลูกค้า ที่ขณะนี้ได้มีการคุมตัวฝากขังในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ (อ่านข่าว : ฝากขัง ป๋ากบ เชียร์แขกอาบอบนวดดัง ดีเอสไอค้านประกันตัว หวั่นหลบหนี) กับช่วงชูวิทย์มีเรื่องเล่า ผ่านทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ในฐานะอดีตเจ้าของวิคตอเรียซีเครท ระบุว่า ตนเองนั้นเป็นคนสร้างที่นี่ขึ้นมา คิดชื่อนี้ขึ้นมาเองตั้งแต่ปี 2532 และหากจะใช้ผ้าปิดตาก็สามารถกลับมาที่นี่ถูก
นายชูวิทย์ เผยถึงการจ่ายส่วยที่เบื้องต้นมีการตรวจค้นพบเอกสารบัญชีการให้การรับรองในส่วนนวดแก่เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดต่าง ๆ ว่า การจ่ายส่วยนั้นยิ่งเด็กอายุน้อย ยิ่งต้องจ่ายมาก และคนที่จ่ายส่วยตัวจริงก็คงไม่ใช่นายบุญทรัพย์ หรือ ป๋ากบ ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ แต่จะต้องเป็นเจ้าของสถานบริการตัวจริง หรือ เจ้าสำนัก ที่ตอนนี้กลับยังไม่มีชื่อหรือถูกพูดถึงแต่อย่างใด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอควรไปตรวจสอบในคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในร้าน ที่อาจจะมีข้อมูลสำคัญที่จะสามารถสืบสวนขยายผลได้ ไม่ใช่ตู้เซฟ เพราะสมัยนี้ไม่มีใครเขาเก็บข้อมูลไว้ในนั้น ตู้เซฟอาจจะเป็นแค่เงินทอนเท่านั้น
