ทั่วโลกล้วนทราบดีว่า ดูไบ คือเมืองของมหาเศรษฐี ผู้คนที่ร่ำรวยมาก ชนิดที่ว่า รถสปอร์ตหุ้มทองหรูหราดูจะเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเห็นได้ไม่ยาก แต่ใครจะรู้ว่า แม้แต่ขอทานที่นี่ก็รวยอู้ฟู่ไม่ต่างกัน ยิ่งถ้าเป็นมืออาชีพด้วยแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้จะฉวยโอกาสจากความใจบุญของบรรดาชาวดูไบผู้มั่งคั่ง ทำให้สามารถหารายได้เข้ากระเป๋าเหนาะ ๆ ถึงเดือนละประมาณ 270,000 เดอร์แฮม หรือกว่า 2.3 ล้านบาท !
ถึงแม้ว่าการขอทานในดูไบถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และถ้าถูกจับได้คือคุกเท่านั้น แต่โอกาสหาเงินทำให้ขอทานมากมายกล้าเสี่ยง และขอทานที่นี่ไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ในโลก เพราะคนพวกนี้เป็นมืออาชีพมาก จะทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไป คอยจับจ้องหาคนร่ำรวยที่ดูมีเมตตา เมื่อได้เหยื่อที่ต้องการก็จะพุ่งไปหา ทำทีเล่าเรื่องราวแสนเศร้าชีวิตรันทด เช่น ครอบครัวอาศัยอยู่ในเขตสงคราม ลำบากยากแค้นมาก ต้องการเงินช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งคนพวกนี้จะไม่ได้เอ่ยปากขอแค่หลักสิบ หลักร้อย แต่ขอกันเป็นหมื่น ซึ่งชาวดูไบกระเป๋าหนักส่วนใหญ่ก็ควักให้ไปเพราะความสงสาร
ปี 2560 นั้น นับว่าเป็นปีทองของเหล่าขอทานอาชีพในดูไบ เนื่องจาก ชีค คอลิฟะห์ บิน ซายเอ็ด อัล นาห์ยาน เอเมียร์แห่งดูไบ และ ประธานาธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศว่ามันคือปีแห่งการให้ และกระตุ้นให้ประชาชนออกมาทำความดี ด้วยการบริจาคเพื่อการกุศล หรือช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน ซึ่งขอทานชั้นเซียนก็ใช้โอกาสนี้หาเงินจากชาวดูไบกันอย่างหวานหมู หนึ่งในผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคือ นาวาล อัล นัคบี โดยเขาเล่าว่า ตัวเขาเองเป็นคนใจบุญ และมักจะบริจาคเงินให้กับขอทานอยู่เสมอ แต่ในช่วงหลัง ๆ เขาเริ่มรับรู้ได้ว่ามันเป็นการหลอกลวงที่ทำกันเป็นขบวนการ เขาจึงทำเป็นไม่สนใจ และไม่ให้เงินกับขอทานที่ไหนอีก
ตำรวจดูไบเคยออกปฏิบัติการกวาดล้างขอทานมืออาชีพมาแล้วหลายครั้ง โดยในปี 2559 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขอทานขั้นเทพได้หนึ่งคน จากการตรวจสอบพบว่าชายคนนี้หาเงินได้มากถึงกว่า 2.3 ล้านบาทต่อเดือน และเขาก็เหมือน ๆ กับขอทานคนอื่นในเมืองนี้ นั่นคือทำทีเป็นนักท่องเที่ยว และเข้าเมืองมาอย่างถูกกฎหมาย มีวีซ่าถูกต้องทุกประการ และในปี 2560 เฉพาะวันแรกของเทศกาลรอมฎอน ตำรวจสามารถรวบขอทานได้อีก 65 คน รวมทั้งตัวบงการที่อยู่เบื้องหลัง แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีขอทานอีกมากมายที่หลบหนีไปได้