จากกรณีข่าว ยายของน้องป่าน (นามสมมติ) เด็กชาย วัย 6 ขวบ ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายแป๊ะ พ่อเลี้ยงของน้องป่าน เนื่องจากคิดว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายหลานจนได้รับบาดเจ็บ เนื้อตัวมีรอยฟกช้ำ และมีรอยไหม้คล้ายบุหรี่จี้ ซึ่งในภายหลัง น.ส.เจี๊ยบ แม่ของน้องป่านก็ได้ออกมายอมรับว่าตนเป็นคนทำร้ายลูกเอง ไม่ใช่ฝีมือของนายแป๊ะ ผู้เป็นแฟนใหม่ นั้น (อ่านเพิ่มเติมที่ : ยายโร่แจ้งความจับพ่อเลี้ยงใจทมิฬ - แม่แท้ ๆ ปัดแฟนใหม่ทำ แต่เป็นฝีมือตัวเอง)
ล่าสุด วันที่ 20 มกราคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี ได้ติดต่อไปสัมภาษณ์ นายแป๊ะ อายุ 34 ปี พ่อเลี้ยงของน้องป่าน ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ซึ่งนายแป๊ะก็ได้เปิดใจว่า ตนรู้จักกับ น.ส.เจี๊ยบ แม่ของน้องป่านมานาน 3-4 ปี แต่เพิ่งคบหาเป็นแฟนกันแค่ไม่กี่เดือน และได้เลิกรากันไปตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ เพราะไปด้วยกันไปไม่ได้ แต่ก็ยังมีการติดต่อพูดคุยกันอยู่ ส่วนในวันเกิดเหตุ นายแป๊ะยืนยันว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการบาดเจ็บของน้องป่านเลย ตนถูกกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน จนทำให้สังคมเข้าใจผิด และมีหลายสื่อนำภาพของตนไปเผยแพร่ ทั้งที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง
นายแป๊ะ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 น.ส.เจี๊ยบ พาน้องป่านมาหาตนที่บ้าน หลังจากนั้นในตอนกลางคืน ตนก็ขอให้เจี๊ยบพาลูกกลับบ้านที่นครปฐม ซึ่งในเช้าวันที่ 26 ธันวาคม น้องป่านก็ยังไปโรงเรียนตามปกติ และตนก็ไม่ได้เจอกับสองแม่ลูกอีก มีแค่ติดต่อกันทางโทรศัพท์เท่านั้น และนับตั้งแต่วันที่ 30-31 ธันวาคม ตนก็ไม่ได้ติดต่อกับน.ส.เจี๊ยบ อีก จึงไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน นอกจากนี้แล้ว ตนสงสัยว่า หากตนทำร้ายเด็กจริง ๆ เหตุใดพี่สาวและแม่ของน.ส.เจี๊ยบ ถึงเพิ่งมาแจ้งความ ทั้งที่เรื่องผ่านไปหลายวันแล้ว
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับแม่ของน.ส.เจี๊ยบ นั้น นายแป๊ะกล่าวว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ตนได้เข้าไปหาแม่ของ น.ส.เจี๊ยบ เป็นครั้งแรก แต่แค่เข้าไปไหว้ก็เป็นเรื่องแล้ว เพราะที่ผ่านมา น.ส.เจี๊ยบ ทำอะไรไม่ค่อยบอกแม่ รวมทั้งเรื่องที่มีแฟน ดังนั้น ในช่วงที่ตนคบหาอยู่กับ น.ส.เจี๊ยบ ตนจึงไม่เคยพาน้องป่านไปไหนมาไหนด้วย หลานอีกคน ตนก็ไม่เคยพาออกจากบ้าน ซึ่งหลังจากการเข้าไปหาแม่ น.ส.เจี๊ยบ ครั้งนั้น ตนก็ไม่ได้ติดต่อกับทางครอบครัวนี้อีก
สำหรับเรื่องแผลของน้องป่าน ตนทราบว่ายายไปบอกนักข่าวว่าแม่เอาบุหรี่จี้ แต่เท่าที่สังเกต ไม่น่าจะใช่รอยบุหรี่ เพราะมันเป็นแผลขนาดใหญ่ แต่ถ้าเกิดมีการเอาบุหรี่ไปจี้จริง ๆ ก็แสดงว่าต้องดูดซิการ์ เพราะแผลใหญ่มาก
ทั้งนี้นายแป๊ะมองว่า น.ส.เจี๊ยบ ต้องอบรมสั่งสอนลูกเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่รู้ว่าตีลูกแบบไหนบ้าง ซึ่งตนก็คงเข้าไปก้าวก่ายไม่ได้ เท่าที่ผ่านมาก็ทราบว่า น.ส.เจี๊ยบ มีความกดดันเรื่องเลี้ยงลูกคนเดียว และยังมีปัญหาเรื่องบ้าน ซึ่งเขาเคยเอ่ยปากขอให้ตนช่วย แต่ตนก็ปฏิเสธไป เพราะตัวเองก็ยังลำบาก ไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง และขอยืนยันอีกว่า ตนไม่เคยทำร้ายเด็กอย่างแน่นอน เพราะตัวเองก็มีลูกเล็กเช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว ในช่วงบ่ายวานนี้ (19 มกราคม 2561) นายแป๊ะก็ได้เดินทางไปที่ สน.ลำผักชี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกล่าวว่า ถ้าหากสภ.สามพราน เรียกตัวไปสอบถาม ตนก็ยินดีให้ความร่วมมือตามขั้นตอน และได้ขอร้องอีกว่า อย่าเอาชื่อมูลนิธิมาเกี่ยวข้อง
ทางด้าน น.ส.เจี๊ยบ แม่ของน้องป่าน ก็ได้ยืนยันว่านายแป๊ะไม่เคยทำร้ายน้องป่าน บาดแผลทั้งหมดบนตัวลูก ตนเป็นคนลงมือทำเอง ส่วนบาดแผลที่ขาทั้งสองข้าง ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้าย แต่เกิดจากไฟดูด ซึ่งน้องป่านน้ำเหลืองไม่ดี เวลาเป็นแผล ก็จะลุกลามได้ง่าย สำหรับสาเหตุที่ตีก็เพราะน้องป่านนั้น น.ส.เจี๊ยบ ยอมรับว่า ตีเพราะลูกไม่เชื่อฟังตน และชอบทำอะไรตามใจเสมอ ส่วนเรื่องกล่าวหานายแป๊ะ เป็นความเข้าใจผิดระหว่างตนกับแม่ ทั้งนี้ น.ส.เจี๊ยบ ก็ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
