
สืบเนื่องจากวานนี้ (24 มกราคม 2561) พบว่าสภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสภาพอากาศที่อึมครึมคล้ายหมอกลงตลอดวัน และบางพื้นที่มีฝนตกลงมาด้วยนั้น

โดย นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า สภาพอากาศดังกล่าวไม่ใช่แค่หมอกเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะฝุ่นละอองในอากาศที่เกินค่ามาตรฐาน แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เพราะจากกราฟพบว่าขณะนี้ในพื้นที่ กทม. อยู่ในเกณฑ์สีส้ม ยังไม่ถึงสีแดงที่เป็นเกณฑ์อันตราย แต่ก็เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว
นายเถลิงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ประชาชนที่มีอาการภูมิแพ้ ขอแนะนำให้ใส่หน้ากากป้องกันเมื่อต้องอยู่ในสถานที่โล่งแจ้ง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมภายนอกอาคาร
ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า กทม. เกิดสภาพอากาศนิ่ง และชั้นอากาศผกผันใกล้พื้นดิน ทำให้มลพิษทางอากาศเกิดการสะสมตัวในปริมาณมาก ผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 ใน กทม. เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่ ฝุ่นละออง PM10 ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน แหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลัก ได้แก่ การจราจร และรองลงมาคือ อุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง
นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า สถานการณ์มลพิษทางอากาศ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันที่ 24 มกราคม 2561 ผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่ (ค่ามาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม.) ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ณ เวลา 12.00 น. วันที่ 24 มกราคม 2561 อยู่ในช่วง 54-85 มคก./ลบ.ม. สูงสุดที่ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี สมุทรปราการ 59-71 มคก./ลบ.ม. และสมุทรสาคร 114 มคก./ลบ.ม.

สำหรับผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM10 ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน (ค่ามาตรฐาน 120 มคก./ลบ.ม.) ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลักของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ การจราจร รองลงมาคือ อุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง ประกอบกับเกิดสภาพอากาศนิ่ง ลมสงบ และชั้นอากาศผกผันใกล้พื้นดิน ทำให้มลพิษทางอากาศเกิดการสะสมตัวในปริมาณมาก ปรากฏการณ์นี้จะพบเป็นบางวันในช่วงฤดูหนาว ถึงต้นฤดูร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับ PM2.5 สูงขึ้นผิดปกติในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม จากข่าวที่แชร์ในเว็บเพจต่าง ๆ ซึ่งเป็นรูปจากเว็บไซต์ aqicn.org ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เว็บไซต์ดังกล่าวใช้ค่าเฉลี่ย 1 ชั่วโมง เทียบกับดัชนีคุณภาพอากาศของ U.S. EPA ซึ่งต้องใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงในการเทียบ จึงทำให้การรายงานดัชนีคุณภาพอากาศของเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ในช่วงสีแดง (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) ข้อเท็จจริง หากใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จะอยู่ในเกณฑ์สีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)
เบื้องต้น มีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ระบบทางเดินหายใจ หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมภายนอกอาคาร และขอความร่วมมือเจ้าของยานพาหนะดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีและไม่ปล่อยควันดำ และถ้าเป็นไปได้ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันไปใช้ระบบขนส่งมวลชนก็จะช่วยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ได้

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมควบคุมมลพิษ, เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร






