ศรีวราห์ เผยผลตรวจบ้านเปรมชัย พบงาช้าง 2 คู่ เมียยัน อ้างมีใบอนุญาตครอบครองถูกต้อง แถมพบปืนอีก 40 กระบอก เชื่อ หลักฐานฟ้องเข้าไปล่าสัตว์จริง
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำทีมค้นบ้านพักนายเปรมชัย กรรณสูต ในซอยศูนย์วิจัย กรุงเทพฯ เพื่อค้นหาหลักฐานคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นั้น (อ่านข่าว ค้นบ้านเปรมชัย พบไรเฟิล - งาช้าง 2 คู่ แต่ไม่เจอซากสัตว์ - สิ่งผิดกฎหมาย)
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องตรวจยึดของกลางจากบ้านเลขที่ 12/3 ซึ่งเป็นบ้านของนายเปรมชัย เบื้องต้นพบปืนเกือบ 10 กระบอก เป็นปืนยาว ลักษณะใกล้เคียงกับปืนที่ตำรวจตรวจยึดได้จากป่าที่เกิดเหตุ และพบปืนสั้น 1 กระบอก เป็นของลูกชายนายเปรมชัย โดยปืนทั้งหมดอยู่ในห้องเก็บปืนที่อยู่ติดกับห้องนอน แม้ปืนทั้งหมดจะมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่จะต้องเก็บไปตรวจพิสูจน์ รวมถึงงาช้าง 2 คู่ที่มีความยาวประมาน 1 เมตรที่มีใบขออนุญาตถูกต้อง จะต้องเก็บไปตรวจพิสูจน์เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้จากการสอบถามภรรยานายเปรมชัย ระบุเพียงว่า นายเปรมชัยเป็นคนรักธรรมชาติ มีกิจกรรมเดินป่าบ่อยครั้ง แต่ตัวภรรยาไม่เคยไปด้วย และไม่สามารถบอกได้ว่านายเปรมชัยอยู่ที่ไหน
ส่วนจะต้องมีการตรวจค้นจุดอื่น หรือตรวจออฟฟิศหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา ปทส. มีเพียงหน้าที่สนับสนุนในการตรวจค้น ส่วนคดีก็อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็น เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ
ต่อมา พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการตรวจค้นบ้านพักนายเปรมชัย ว่า เบื้องต้น พบงาช้าง 2 คู่ ที่ภรรยาของนายเปรมชัย อ้างว่ามีใบอนุญาตในการครอบครองถูกต้อง แต่ไม่มีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ที่งาช้างจึงต้องยึดให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบว่าเป็นงาช้างชิ้นเดียวกันกับที่ขอใบอนุญาตไว้หรือไม่
นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืน 40 กระบอก เป็นปืนยาว 38 กระบอก ปืนสั้น 2 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน จึงให้อายัดอาวุธปืนทั้งหมดไว้ตรวจสอบทะเบียนการครอบครอง รวมถึงดีเอ็นเอลายนิ้วมือ หาความเชื่อมโยง
ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าหลักฐานแวดล้อมขณะนี้ ชัดเจนว่านายเปรมชัยมีพฤติการณ์เป็นคนชอบล่าสัตว์ เนื่องจากปืนยาวส่วนใหญ่เป็นปืนคล้ายกับอาวุธปืนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และในมุมของนักสืบก็มองว่ามีเจตนาเข้าไปล่าสัตว์ชัดเจน เพราะไม่มีการเตรียมเสบียงอาหาร แต่ในทางสำนวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง แต่หากนายเปรมชัย จะอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิงก็ให้ไปต่อสู้ในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเชิญเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวร ในช่วงวันเกิดเหตุมาสอบปากคำที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ส่วนกรณีคลิปเสียงเจรจาต่อรอง และผู้อนุญาตให้เข้าพื้นที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยืนยันหากใครมีส่วนรู้เห็นในการเข้าไปล่าสัตว์ก็ต้องมีความผิดด้วย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าในห้องทำงานของนายเปรมชัยมีหนังเสือโคร่ง ประกอบอยู่ขอนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสอบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
สำหรับวันนี้มีการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาในคดีทั้งหมด 4 คน ในจังหวัดกาญจนบุรี นนทบุรี ราชบุรี นครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร รวม 6 จุด ซึ่งพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี เพียงที่บ้านของนายเปรมชัย ส่วนจุดอื่นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย