x close

พรานป่ายังอึ้ง ชี้มืออาชีพแล่หนังเสือดำ เผยเสือทุ่งใหญ่ ไม่กลัวคน เลยถูกล่า


ล่าเสือดำ

            อดีตพรานป่า ยังแปลกใจ เหตุพบหนังเสือดำถูกแล่ออกในสภาพครบสมบูรณ์ ชี้ต้องเป็นคนที่ชำนาญมาก ด้านชาวบ้าน เผยความลับ เสือทุ่งใหญ่ ไม่ค่อยกลัวคน เลยต้องเจอจุดจบดังกล่าว

            จากข่าวที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จับกุมพร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ อาทิ ซากเสือดำที่ถูกชำแหละ อาวุธปืน และเครื่องกระสุน ซึ่งสังคมกำลังวิจารณ์อย่างหนักนั้น

ล่าเสือดำ

ล่าเสือดำ
            เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (9 กุมภาพันธ์ 2561) อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า จากการสอบถามนางสุดาวรรณ ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่นี่จะเคารพศาลฤาษี และศาลพระนเรศวร ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขอพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ แต่จะไม่ขอพรให้ล่าสัตว์ป่าได้

            ทั้งนี้ตนเคยเห็นเสือในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทั้งเสือโคร่งและเสือดำ ไก่ฟ้า และเก้ง อยู่เป็นประจำ และพวกเสือจะไม่ค่อยกลัวคน ตนคิดว่าคนที่ล่าสัตว์ไปได้ก็เป็นเพราะเสือพวกนี้ ไม่ได้หลบคน

            ด้าน นางมาลัย ชาวบ้านในพื้นที่อีกราย กล่าวว่า ชาวบ้านเลิกล่าสัตว์ไปนานแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ค่อนข้างเข้มงวด ส่วนตนเคยเห็นเสือซึ่งค่อนข้างมีเยอะ แต่คนในพื้นที่มักจะไม่ล่าสัตว์ใหญ่ เนื่องจากกลัวโดนสัตว์ทำร้าย
           
            ส่วนที่มีข่าวออกมาว่ากลุ่มของนายเปรมชัย หลงป่านั้น ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเส้นทางที่นายเปรมชัยไป จะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำตามจุดต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ ส่วนที่มีชาวบ้านพูดกันว่า เจ้าหน้าที่ไปจับกุมกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เป็นเพราะไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ตนคิดว่าเป็นไปได้ เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาเพื่อล่าสัตว์ในลักษณะแบบนี้

ล่าเสือดำ

ล่าเสือดำ

            นอกจากนี้ นายไพบูลย์ อายุ 59 ปี อดีตพรานป่าที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านลำคลองงู เผยว่า ตนเลิกทำอาชีพพรานป่ามาหลายสิบปีแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังติดเรียกตนว่า "พรานบุญ" และสมัยก่อนทุ่งใหญ่นเรศวร มีสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งเสือโคร่ง เสือดาว และเสือดำ แต่สำหรับเสือดำ เป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยกลัวคน ตอนกลางคืนหากมีคนตั้งแคมป์ก่อไฟ เสือดำจะเข้ามาให้เห็นใกล้ ๆ โดยไม่ได้ทำร้ายใคร

            สำหรับสัตว์ป่าส่วนใหญ่ที่พรานสมัยก่อนล่ามักเป็นพวกเก้ง หมูป่า และเม่น ซึ่งจะต้องนำมาผ่านการถนอมอาหารก่อน เพราะการเดินทางเข้า-ออก ภายในป่าต้องใช้ระยะเวลานานหลายวัน จึงต้องมีการนำเนื้อสัตว์มาแล่หนังแล้วนำมาเผาไฟ หรือย่างไฟ บางครั้งก็นำเกลือมาพอกไว้ ส่วนอาวุธที่ใช้ในการล่าจะเป็นปืนแก๊ป ปืนลูกซอง และมีด สำหรับจุดตายของเสือจะอยู่ที่บริเวณหัว และใกล้กับบริเวณหัวไหล่ หรือที่เรียกกันว่า "เหยียบขึ้น"

ล่าเสือดำ

             ทั้งนี้ คนพื้นบ้านจะไม่ทานเนื้อเสือ เพราะเนื้อไม่อร่อยมีกลิ่นสาบ แต่บางคนจะล่าเสือเพื่อนำไปส่งขายให้กับตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมีคนจีนบางกลุ่มที่เชื่อว่าเสือเป็นยาบำรุงกำลัง และจะมีพ่อค้ารับซื้อทั้งเนื้อ และกระดูกเสือ เพื่อนำไปทำเป็นยา

           โดยเสือโคร่ง 1 ตัว ตีเป็นมูลค่าได้ประมาณ 200,000 บาท ส่วนราคากระดูก และเนื้อของเสือโคร่ง มีราคากิโลกรัมละ 8,000 บาท ขณะที่หนวดเสือ และเขี้ยวเสือ จะมีการรับซื้อในราคาที่สูงเช่นกัน แต่สำหรับเสือดำ ตนไม่ทราบราคา แต่เท่าที่ตนทราบ เสือดำที่มีขนาดโตที่สุด จะมีน้ำหนักประมาณ 25 กิโลกรัม

            อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ตนรู้สึกแปลกใจมาก สำหรับหนังเสือดำโดนแล่ที่ปรากฏในข่าวนั้น จะต้องเป็นคนที่มีความชำนาญอย่างมาก เพราะดูจากวิธีการแล่หนังแล้ว โดยเฉพาะจุดที่แล่ยากที่สุดคือ หัว เบ้าตา ขนตา และหนวด มีการเลาะออกแบบสภาพอยู่ครบสมบูรณ์ ถือว่าชำนาญมาก

 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนอนุรักษ์

ภาพและข้อมูลจาก amarintv

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พรานป่ายังอึ้ง ชี้มืออาชีพแล่หนังเสือดำ เผยเสือทุ่งใหญ่ ไม่กลัวคน เลยถูกล่า อัปเดตล่าสุด 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 16:29:08 19,522 อ่าน
TOP