วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า คณะเจ้าหน้าที่สายตรวจหน่วยพิทักษ์ฯ ทล.20 (ห้วยคำภู) พร้อมด้วยสายตรวจส่วนกลางอุทยานแห่งชาติทับลาน ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าพรานนุช ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบบริเวณป่าคลองน้ำใส ภายในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังจากที่เมื่อเวลาประมาณ 03.40 น. ระบบ NCAPS แจ้งเตือนว่าพบเห็นกลุ่มบุคคลกำลังแบกเป้เสบียงอาหารลักลอบเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
ทีมเจ้าหน้าที่ติดตามจนพบกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งมีทั้งหมด 6 คนด้วยกัน ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา นอกจากนี้แล้ว ยังพบเลื่อยโซ่ยนต์ 2 ตัว และเสบียงอาหารอีกจำนวนมาก จากการสอบถามชาวกัมพูชากลุ่มนี้ ได้ความว่า กลุ่มของพวกตนเป็นชาวกัมพูชา มีจำนวนทั้งหมด 37 คน ได้เข้ามาตัดไม้พะยูง โดยมีชาวไทย 2 คน เป็นผู้นำทาง แต่ยังไม่ทันได้ขนย้ายออกจากพื้นที่ ก็ถูกจับกุมเสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งประสานงาน เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดคนอื่น ๆ ที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับระบบ NCAPS นั้น นายประวัติศาสตร์ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติทับลานคืออุทยานแห่งแรกที่นำระบบนี้มาใช้ โดย NCAPS ย่อมาจาก Network Centric Anti Poaching System ระบบนี้ประกอบไปด้วยกล้องที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในป่า ในพื้นที่ที่ยากต่อการมองเห็น เช่น จุดขึ้น-ลงเนินเขา กล้องนี้ใช้เลเซอร์ที่ไม่มีแสงและเสียง จับความเคลื่อนไหวของคนและสัตว์ป่า แล้วส่งภาพกลับมายังอีเมล หลักการทำงานเป็นระบบ Network คล้ายกับกล้อง CCTV นอกจากนี้แล้ว มันยังสามารถตรวจจับภาพกลางคืน หรือ Night Vision ได้ และกล้องก็จะช่วยวิเคราะห์ได้ว่า ผู้บุกรุกมีอาวุธมากน้อยเพียงใด และน่าจะเดินทางไปยังเส้นทางใด
นอกจากระบบ NCAPS จะช่วยปกป้องป่าอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียหรือการบาดเจ็บจากการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนร้ายได้อีกด้วย เพราะเมื่อมีผู้บุกรุกเข้าไปในป่า แล้วพบเจอกล้อง NCAPS ต่อให้ทำลายหรือเผากล้องทิ้ง ระบบก็ได้จับภาพและส่งภาพผู้บุกรุกมายังอีเมลของเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ติดตามจับกุมได้แน่นอน ระบบนี้จึงถือเป็นเครื่องมือที่สร้างความได้เปรียบให้เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง ก็สามารถวางแผนได้อย่างรัดกุมต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก