เพจออยศรีฯ จี้ใจดำ อุปนายกทนาย รู้กฎหมายแต่ยังโพสต์ขวดเหล้า ว่าแต่เขากลับผิดเสียเอง !

        นายพัฒนา อุปนายกสภาทนายฯ เดินทางเข้าร้องเรียนเอาผิดเพจเฟซบุ๊ก ปมเผยแพร่ภาพไม่เหมาะสมทำเสื่อมเสียชื่อเสียง ด้านเพจออยศรีและผองเผือก ซัดเป็นนักกฎหมายแต่ทำผิดเอง พร้อมยืนยันอยู่ข้างทนายษิทรา

        วันที่ 16 มีนาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานว่า นายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ ได้มีการเดินทางเข้าแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อเอาผิดกับเพจเฟซบุ๊กหนึ่ง หลังมีการเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสม ตัดต่อและบิดเบือนความจริง อาทิ ภาพถ่ายคู่กับขวดเบียร์ ทำให้เสื่อมเสียทั้งด้านการงาน ชีวิตส่วนตัว และครอบครัว ซึ่งหลังภาพและเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป นายพัฒนาถูกคนเข้ามาต่อว่าด้วยคำหยาบคาย โดยยืนยันว่าจะแจ้งความเอาผิดให้ถึงที่สุด

        นายพัฒนา เผยว่า ส่วนในกรณีที่นายแผน เดินทางเข้ายื่นหนังสือให้ทางสภาทนายความ ตรวจสอบทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด นั้น ตนเป็นเพียงผู้รับเรื่องเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจในการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องที่นายแผนมาร้องเรียนนั้น ไม่มีเรื่องของการแต่งกายแต่อย่างใด เพียงแต่ตอนนั้น ตนเห็นมีสื่อมวลชนมาเยอะและสื่อถามถึงเรื่องความเหมาะสมของการแต่งกาย ตนจึงถือโอกาสเป็นการพูดปรามไป เพราะส่วนตัวมองว่าการสวมเสื้อยืด-กางเกงยีนส์ ไม่เหมาะสมตามกาลเทศะ


        ขณะเดียวกัน แอดมินเพจออยศรีและผองเผือก เพจเฟซบุ๊กชื่อดังที่ติดตามและเผยแพร่เรื่องราวคดีหวย 30 ล้าน เปิดเผยว่า ตนไม่กังวลว่าจะเป็นหนึ่งในเพจที่ถูกนายพัฒนา แจ้งความเอาผิด เพราะส่วนตัวแล้วตอนแชร์อะไรก็จะระวังเพื่อไม่ให้ไปหมิ่นประมาทบุคคลอื่น ตนรู้ว่าการทำเพจลักษณะนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีที่เห็นชัดก็คือทำให้ตัวเองได้รู้กฎหมายมากขึ้น

        ออยศรี เผยต่อว่า หลังจากการทำเพจ ตนรู้สึกสนใจกฎหมายมากขึ้น นำมาซึ่งการสงสัยว่า ภาพนายพัฒนา ที่ถ่ายคู่กับขวดสุรา ซึ่งเจ้าตัวออกมาชี้แจงว่าเป็นภาพที่โพสต์ก่อนที่มีการประกาศเรื่องความผิดของผู้โพสต์ภาพแอลกอฮอล์ แต่ตนไปเจอกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551 ซึ่งบังคับใช้ก่อนที่นายพัฒนาจะโพสต์ภาพดังกล่าว ตนอยากทราบว่าเป็นการกระทำผิดหรือไม่ เพราะนายพัฒนาเองก็เป็นนักกฎหมาย

        ทั้งนี้ ในส่วนของเสื้อยืดของทนายษิทรา ตนก็เห็นเขาใส่แบบนี้มานานแล้ว แต่กลับเพิ่งมาเป็นประเด็นช่วง 2-3 วันนี้ ตนมองว่าเสื้อยืดก็ไม่ได้เป็นส่วนที่ทำให้เสียเกียรติแต่อย่างใด เพราะก็ไม่ได้โป๊เปลือย หรืออนาจารอะไร

        โดยส่วนตัวที่ตามคดีหวย 30 ล้านนั้น ตนมองว่ามันไม่มีตรงกลางอยู่แล้ว และตนก็จะขออยู่เคียงข้างทนายษิทรา ตนยืนยันว่าไม่ใช่พนักงานในองค์กรของทนายษิทรา ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพียงแค่ต้องการรู้ข้อเท็จจริงของคดีนี้เท่านั้น


ภาพและข้อมูลจาก


- เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ