แพทย์ชี้ สาเหตุปมเด็กดูดเสมหะจนตาแตก แนะวิธีดูแล-หายได้ใน 7 วัน

           แพทย์ ชี้ ปมลูกแฝดเส้นเลือตในตาแตก เกิดจากไอ-จามแรงขณะดูดเสมหะ เป็นได้ทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ รวมถึงคนขาดวิตามินเค แนะวิธีบรรเทาภายใน 1 สัปดาห์ หายเป็นปกติ

           จากกรณีคุณแม่รายหนึ่งได้แชร์เรื่องราว พาลูกชายฝาแฝดไปโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เพื่อดูดเสมหะให้ลูกทั้งสอง แต่กลับพบว่าทั้งคู่ตาบวมช้ำ เส้นเลือดในตาแตก ราวกับโดนต่อย ต่อมาทางโรงพยาบาลก็ได้ออกมาชี้แจงว่า อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จากการร้องและไอของเด็กนั้น (อ่านข่าว : รพ. ดัง แจง เด็กดูดเสมหะจนตาแตก ชี้เกิดขึ้นได้จากการร้อง-ไอ ไม่ได้ถูกจับทรมาน)


           ล่าสุด (18 มีนาคม 2561) คุณดาว ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ระบุว่า หลังจากตนเห็นลูกในสภาพนั้น ก็ตกใจมาก เพราะเคยพาลูกไปดูดเสมหะมาแล้ว 5 ครั้ง ลูกก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้ จึงสงสัยว่าทีมนักกายภาพใช้ความรุนแรงกับน้องหรือไม่ ขณะนั้นก็ไม่มีคำชี้แจงจากทีมแพทย์ที่ดูแล ตนจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวบนโชเชียลเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่ จากนั้นทางโรงพยาบาลก็ได้ติดต่อกลับมา โดยมอบน้ำยาหยอดตาให้ และพร้อมที่จะตรวจตาของน้องอย่างละเอียดอีกครั้ง

           แต่ทางครอบครัวก็พาน้องไปตรวจที่คลินิกเอกชนใกล้บ้าน เพื่อความสบายใจอีกครั้ง พบว่าดวงตาเริ่มกลับมาปกติ แต่ยังหายไม่หมด ตนอยากจะฝากถึงทีมแพทย์ให้มีการดูแลรัดกุมมากขึ้น และพอเกิดเหตุควรออกมาชี้แจงโดยเร็ว อีกทั้งทางโรงพยาบาลควรแจ้งกับพ่อและแม่โดยตรง เพื่อไม่ให้ครอบครัวตกใจกลัว ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว เพราะได้รับคำชี้แจงจากโรงพยาบาล ส่วนอาการของน้องต้องรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป


           ขณะที่ นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเด็ก เปิดเผยกับทีมข่าวอัมรินทร์ ทีวี ว่า กรณีเลือดออกในเยื่อบุตา สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เป็นได้ทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับอาการไอหรือจามรุนแรงแค่ไหน รวมถึงผู้ที่ขาดวิตามินเค ก็สามารถมีเลือดออกในดวงตาได้ เช่นเดียวกับกรณีนี้น้องอาจจะไอหรือจามขณะดูดเสมหะ โดยสิ่งที่จะบรรเทาได้ คือ หยอดน้ำตาเทียม ไม่ขยี้ตาซ้ำ ประคบเย็นให้เส้นเลือดหด หรือนอนด้วยหมอนสูง 30 องศา ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ก็จะหายกลับเป็นปกติ

           ส่วนตัวมองว่าคงไม่ใช่ที่นักกายภาพจะทำร้ายเด็ก เพราะหากเป็นการทำร้ายหรือได้รับการกระแทกจริง เด็กอาจจะมองไม่เห็นหรือมองไม่ชัด และอาจมีเลือดห้อเต็มตามากกว่านี้ ส่วนที่น้องเกิดอาการหวาดกลัวนั้น เกิดจากเด็กได้รับความเจ็บปวดขณะดูดเสมหะ ส่วนที่มีการคาดว่าเด็กกำลังดิ้น เพื่อเอาตัวรอดจากการดูดเสมหะนั้น ตนคิดว่าไม่น่าใช่ เพราะปกติการดูดเสมหะในเด็ก เจ้าหน้าที่พยาบาลจะมีการห่อตัวเด็ก เพื่อป้องกันการดิ้นอยู่แล้ว พร้อมแนะนำว่าหากเป็นภูมิแพ้ ควรหาหน้ากากอนามัยปิดจมูก เพราะหากไอหรือจามรุนแรง ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงเช่นเดียวกับกรณีนี้ได้



ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Hhow Angkana,