หน่วยช่วยเหลือสัตว์ รุดช่วยหมี 2 ตัว ที่ถูกบังคับใช้เต้นโชว์หาเงิน ทุกฝ่ายหวังว่ามันจะได้เริ่มชีวิตใหม่ ไม่คาดจะเกิดฝันร้ายซ้ำสอง เมื่อหมีถูกส่งไปยังสวนสัตว์สุดฉาว และหมี 1 ตัว ได้ตายไปแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนมกราคม 2561 ตอนที่ รังกิลา หมีสลอธ วัย 19 ปี ถูกช่วยเหลือออกมาจากเงื้อมมือของครูฝึกใจโฉด ที่บีบบังคับให้มันออกเต้นเพื่อหาเงินจากนักท่องเที่ยวในเนปาล ทุก ๆ คนต่างก็โล่งใจ เพราะคิดว่าชีวิตที่แสนโหดร้ายของมันคงจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในที่สุด มันจะได้รับอิสระและการเยียวยาจิตใจหลังจากนี้ แต่ใครจะคาดคิดว่าสิ่งที่เลวร้ายได้เกิดขึ้นในที่สุด
โดยจากรายงานของเว็บไซต์เดอะโดโด้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2561 เปิดเผยว่า เจ้ารังกิลา ถูกมนุษย์พรากออกมาจากอกแม่ตั้งแต่ยังเป็นลูกหมี มันถูกขโมยออกมาขายให้กับครูฝึกรายหนึ่ง ที่ทำการเจาะจมูกมันด้วยเหล็กร้อน ๆ ใช้โซ่ล่าม และบังคับให้มันเต้นตามถนน ซึ่งแม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย นับตั้งแต่เนปาลผ่านร่างกฎหมายสวัสดิภาพสัตว์ป่าในปี 2516 แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมทิ้งช่องทางทำเงินตรงนี้ไป และพยายามเลี่ยงเจ้าหน้าที่ด้วยอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 ทศวรรษ
แต่ก่อนจะเดินทางไปอินเดียได้ พวกเขาต้องพาหมีทั้ง 2 ตัวไปยังอุทยานแห่งชาติปาร์ซา (Parsa National Park) ของเนปาล ให้มันอยู่ที่นี่ชั่วคราวจนกว่าจะข้ามพรมแดนไปยังอินเดียได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง นีล ดี ครูซ ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ผู้พาหมีไปยังอุทยานแห่งชาติดังกล่าว เผยว่าเจ้าหมีทั้ง 2 ตัวดูสงบและผ่อนคลายขึ้น ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าสู่ถนนในป่า "มันน่ายินดีที่ได้เห็นว่าทุกสิ่งที่เราไปนั้นคุ้มค่า"
แต่ใครจะรู้ว่าหมีทั้ง 2 ตัวกลับไม่เคยได้เดินทางไปยังอินเดียเลย โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา นีล ดี ครูซ เพิ่งจะทราบว่าแท้จริงแล้ว รังกิลา กับ ศรีเทวี ได้ถูกย้ายไปยังสวนสัตว์ Central Zoo ในเมืองจาวาลัคเฮล ของเนปาล อย่างลับ ๆ แถมสวนสัตว์ดังกล่าวยังมีชื่อเสียงฉาวโฉ่เรื่องสวัสดิภาพสัตว์สุดเลวร้ายอีกด้วย
"มันเป็นสถานการณ์ชวนให้ใจสลาย เราทำให้แน่ใจทุกอย่างว่าหมีได้ถูกส่งไปยังอุทยานแห่งชาติใกล้พรมแดนแล้ว มันควรจะเป็นจุดที่ง่ายต่อการย้ายพวกมันไปหาผู้เชี่ยวชาญที่อินเดีย" นีล ดี ครูซ กล่าว
หลังจากทราบเรื่อง นีล ดี ครูซ และทีมงานของเขาก็ได้เริ่มการสืบเรื่องดังกล่าวทันที และเขาก็ต้องหัวเสียอย่างหนักเมื่อไม่อาจทราบได้ว่าหมีถูกย้ายไปสวนสัตว์ได้อย่างไร เมื่อไร และเพราะอะไร ทราบเพียงแค่ชื่อของเจ้าหน้าที่ในกรมอุทยานแห่งชาติและอนุรักษ์สัตว์ป่า ผู้รับผิดชอบการขนย้ายหมีทั้ง 2 ตัวไปยังสวนสัตว์โดยไม่แจ้งองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก หรือสถาบันเจนกูดดอลล์ของเนปาล
และที่น่าเศร้าไปยิ่งกว่านั้นคือ เจ้าศรีเทวี เพิ่งจะตายไปในสวนสัตว์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามแม้ทางสวนสัตว์กับรัฐบาลเนปาลจะยืนยันกับ นีล ดี ครูซ ว่า เจ้ารังกิลา ยังมีชีวิตอยู่ดี แต่เขาไม่เชื่อ อีกทั้งเขายังได้เห็นภาพล่าสุดของรังกิลาที่เดินวนเวียนไปมาในกรงเล็ก ๆ สะท้อนให้เห็นความเศร้าซึมและจิตใจที่บอบช้ำของมันด้วย โดยเขาย้ำว่าการเปลี่ยนสถานที่อยู่ของหมีนั้น จะต้องได้รับการจัดการดูแลอย่างรอบคอบ แต่ทางสวนสัตว์กลับไม่ได้จัดกรงให้มันอย่างเหมาะสม ทำให้มันต้องทรมานอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ นีล ดี ครูซ และทีมงานจึงตั้งใจจะเริ่มภารกิจช่วยเหลือมันอีกครั้ง เพื่อพามันไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอย่างที่ควรจะเป็น แต่ถึงอย่างนั้นกระบวนการต่าง ๆ กลับยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่เขาก็ยังมีความหวังเสมอ และเชื่อว่ากุญเจสำคัญที่จะปลดปล่อยหมีที่เหลือรอดตัวนี้ได้ ก็คือการสร้างแรงกดดันให้กับทางกรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า รวมถึงกระทรวงต่างประเทศของเนปาล
"มันเป็นสถานการณ์เร่งด่วน เพราะเราไม่อยากให้มันตายคาสวนสัตว์เหมือนกับเจ้าศรีเทวี ทุกชั่วโมงที่ผ่านไปคือช่วงเวลาอันแสนเศร้า" นีล ดี ครูซ กล่าว และย้ำว่าแม้สถานการณ์จะเลวร้าย แต่เขาก็ยังคงคิดบวกอยู่เสมอ และเชื่อว่าจะสามารถช่วยเจ้าหมีตัวนี้ได้
ภาพจาก World Animal Protection