นางรจนา สินที
สืบเนื่องจากกรณีพบข้อมูลการทุจริตงบกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการ โดยผู้ต้องหาคือ นางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา ระดับ 8 กระทรวงศึกษาธิการ เบื้องต้นพบมีการกระทำมานาน 10 ปี มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท (อ่านข่าว : บุกค้นบ้าน "รจนา สินที" ข้าราชการซี 8 โกงเงินกองทุนเสมาฯ 100 ล้าน !)
นางจรวยพร ทะแกล้วพันธุ์
นางจรวยพร เผยต่อว่า นักศึกษาพยาบาลในกองทุนเสมาฯ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือนักศึกษาที่สอบขอรับทุนโดยตรง และนักเรียนในโครงการผลิตพยาบาลเพื่อพัฒนาสุขภาพประชาชนในจังหวัดชายแดน ตามรอยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นองค์ประธานมูลนิธิฯ เพื่อให้โอกาสบุตรของข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนหรือศิษย์เก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ได้รับโอกาสทางการศึกษา ปีละ 30 ทุน
ทั้งนี้ จำนวนนักศึกษาที่ได้รับทุนกองทุนเสมาฯ ของวิทยาลัยฯ นครลำปาง ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2560 รวม 217 คน ซึ่งจะได้รับทุนปีละ 30,000 บาท ต่อมาปี 2553 ปรับขึ้นปีละ 40,000 บาทต่อปี โดยวิทยาลัยฯ นครลำปาง เริ่มประสบปัญหาเงินกองทุนไม่เข้าในปี 2557 ทำให้นักศึกษาไม่ได้รับการจัดสรรเงิน รวมไปถึงนักศึกษาในโครงการของสมเด็จย่าด้วย แม้ทางวิทยาลัยจะทำหนังสือทวงถามไปยังคณะกรรมการกองทุนฯ คือ นางรจนา สินที เลขาคณะอนุกรรมการพิจารณากองทุนฯ กลับได้รับคำตอบบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด บางครั้งก็ว่าอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และบางครั้งก็ระบุว่ามีการส่งรายชื่อล่าช้า จนมาปี 2559 คณะกรรมการกองทุนฯ ส่งเงินกองทุนมาในรอบปีการศึกษา 2558 แต่ไม่ได้ส่งเงินของปีการศึกษา 2559 และหลังจากนั้นก็ไม่มีการส่งเงินมาอีกเลย ส่งผลทำให้นักศึกษาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการเงินมาอีกเลย ทำให้นักศึกษากว่า 30 คน ประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งค่าเล่าเรียนและการใช้ชีวิต
โดย นางสาวชญาน์นันท์ สายเครือแปง นักศึกษาที่ได้รับทุนฯ รุ่นที่ 36 เผยว่า ตอนประสบปัญหา ตนได้พยายามโทร. ติดตามทวงถามเงินกองทุนจาก นางรจนา มาตลอด 1 ปี หลังปี 2558 ได้รับเงินช้า และปี 2559 ที่เป็นปีการศึกษาสุดท้าย ตนเองยังไม่ได้รับทุนแม้แต่บาทเดียว โดยได้รับคำตอบจากนางรจนาว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการ และบางครั้งอ้างว่ากำลังรับเสด็จ ทำให้ครอบครัวตนเดือดร้อนมาก เพราะพ่อตนมีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์ รายได้ไม่ถึง 10,000 บาท จึงต้องนำรถจักรยานยนต์ที่เป็นทรัพย์สินเพียงชิ้นเดียวไปแลกเป็นสินเชื่อได้เงิน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 มารวมกับเงินกู้ยืมเรียน กยศ. ไว้ใช้จ่ายทั้งค่าเทอมและค่าใช้จ่าย
ขณะที่ นางสาว กัญญาวีร์ แซ่ม้า อายุ 22 ปี นักศึกษาพยาบาล ปี 3 เผยว่า ครอบครัวตนเองยากจน ทำให้ครอบครัวไม่มีเงินส่งเรียน แต่ด้วยความอยากเรียนตามความฝัน จึงพยายามหาทุนจนเจอกองทุนเสมาฯ ที่เหมือนเป็นแสงสว่างในชีวิต แต่ก็ต้องมืดดับลงเมื่อตนเรียนอยู่ชั้นปี 2 เงินกองทุนไม่เข้า จึงจำเป็นต้องให้พ่อแม่ไปยืมเงินมาจ่ายค่าเทอม รวมถึงต้องหางานทำเพื่อเป็นรายได้เสริม ค่าแรงวันละ 300-500 บาท ส่วนเงินกู้ยืมเรียน กยศ. ที่ได้ ก็ต้องกักไว้เป็นค่าเทอม การใช้ชีวิตก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก บางครั้งต้องยืมเงินเพื่อเป็นค่าข้าว หรือบางครั้งก็ต้องอดข้าวในบางมื้อ
ภาพและข้อมูลจาก
