สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บอกเลิกสัญญาเช่าสนามม้านางเลิ้ง โดยให้ส่งมอบสถานที่ และชำระค่าเช่า หรือค่าภาษีค้างชำระ ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 180 วัน วันที่ 6 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ ไววิทยะ หัวหน้าฝ่ายอาวุโส ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ส่งหนังสือถึงประธานคณะกรรมการอำนวยการ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ สนามม้านางเลิ้ง เรื่องการบอกเลิกสัญญาเช่าและขอให้ส่งมอบคืนสถานที่เช่า
โดยปัจจุบันสัญญาเช่าอาคาร (ชั่วคราว) ฉบับที่ 2976/2542, 2977/2542,
2978/2542 ลงวันที่ 29 กันยายน 2542 ทั้ง 3 ฉบับ
ได้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่ามานานแล้ว สำนักงานทรัพย์สินฯ
มีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินและอาคารดังกล่าวข้างต้น
ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้เช่าได้อีกต่อไป
ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ประสานและได้แจ้งให้ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทราบในเบื้องต้นแล้ว โดยราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยินดีให้ความร่วมมือกับสำนักงานทรัพย์สินฯ ทุกประการ
ทั้งนี้
เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
จึงขอบอกเลิกสัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว และขอให้ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำการขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากอาคารและที่ดินทั้ง 6 โฉนด
และขอให้ส่งมอบสถานที่เช่าทั้งหมดคืน
พร้อมชำระค่าเช่าหรือค่าภาษีค้างชำระถึงวันส่งมอบคืนสถานที่เช่า (หากมี)
แก่สำนักงานทรัพย์สินฯ ทั้งนี้ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 180 วัน
นับแต่วันที่ได้รับหนังสือหรือถือว่าได้รับหนังสือฉบับนี้
โดยทางสำนักงานทรัพย์สินฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
จะได้รับความร่วมมือจากราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการส่งมอบพื้นที่คืนในครั้งนี้เป็นอย่างดี
สำหรับ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือที่รู้จักว่า สนามม้านางเลิ้ง ก่อตั้งโดย
พระยาประดิพัทธภูบาลและพระยาอรรถการประสิทธิ์ ทำหนังสือขึ้นทูลเกล้าฯ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ก่อตั้งสโมสรสนามม้าแข่งเพื่อบำรุงพันธุ์ม้า
โดยถวายที่ดินของกรมอัศวราชเป็นสถานที่แข่งขัน
ซึ่งต่อมามีพระบรมราชานุญาตพร้อมพระราชทานนามว่า "ราชตฤณมัยสมาคม"
และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้มาบำรุงพันธุ์ม้า
ภาพจาก
เฟซบุ๊ก ราชตฤณมัยสมาคมฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ข้อมูลจาก

,