เตรียมผ่าตัด ผู้กองดำ ถูกยิงกระสุนเจาะหน้าท้อง หลังไล่ล่าล้อมจับตาย "ป๊อป ห้วยเหรียง" ด้านพ่อกังขาทำไมชันสูตรศพลูกนานกว่า 5 ชม.
วันที่ 15 เมษายน 2561 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนร้าย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บาดเจ็บสาหัส 1 นาย ภายในสวนยางพารา ม.3 บ้านห้วยเหรียง ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพบศพ นายสราวุธ ทองย้อย หรือ "ป๊อป ห้วยเหรียง" อายุ 29 ปี มีบาดแผล ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่ศีรษะ 1 นัด แขนซ้าย 1 นัดและขาขวา 1 นัด นอนจมกองเลือดอยู่ในพงหญ้ากลางป่าสวนยาง นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น ไม่สวมเสื้อ มีรอยสักพร้อยทั่วร่าง ใกล้กันพบอาวุธปืน .38 ตกอยู่ 1 กระบอก ภายในโม่มีกระสุนปืนอยู่ 3 นัด ตรวจในกระเป๋ากางเกงพบเครื่องกระสุน .38 อีก 6 นัด พร้อมอุปกรณ์ซ่อมอาวุธปืน 1 ชิ้น รวมทั้งยังพบยาบ้าอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายอีก 50 เม็ด
จากการสอบสวนทราบว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด สนธิกำลัง 20 นาย ออกติดตามจับกุม ป๊อป ห้วยเหรียง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพยายามฆ่า สืบค้นประวัติโชกโชนพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมาย ชอบยิงปืนเล่นขึ้นฟ้า และเคยประกาศท้าจะยิงตำรวจ
โดยระหว่างที่ ป๊อป ห้วยเหรียง นั่งอยู่หน้าบ้านญาติห่างจากบ้านตัวเองประมาณ 300 เมตร ได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งกรูเข้ามา จึงวิ่งหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในป่าสวนยาง เจ้าหน้าที่จึงปูพรมค้นหา ซึ่งขณะที่ ป๊อป ห้วยเหรียง ซุ่มกบดานอยู่ในพงหญ้ารก ก็เป็นจังหวะที่ ร.ต.อ. กฤษฎา ดำเกาะ รอง สว.สส. สภ.ห้วยยอด หรือผู้กองดำ มาเจอเข้า ทำให้ถูกคนร้ายชักปืนยิงใส่ทันที กระสุนเข้าที่หน้าท้องด้านซ้าย 1 นัด ล้มลงบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่จึงรีบนำร่างโชกเลือดของผู้กองดำ ส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง เป็นการเร่งด่วน ส่วนตำรวจอีกจำนวนหนึ่งได้วิ่งไล่ติดตามคนร้าย จนเกิดการยิงต่อสู้กัน ก่อนที่ ป๊อป ห้วยเหรียง จะถูกวิสามัญดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ภายหลังวิสามัญ ป๊อป ห้วยเหรียง ผู้บังคับบัญชาได้เดินทางไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ ผู้กองดำ ซึ่งแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือจนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว รอสังเกตอาการข้างเคียง และเตรียมผ่าตัดหัวกระสุนที่ยังตกค้างอยู่ออก
ขณะที่ญาติของ ป๊อป ห้วยเหรียง ได้เกิดการกังขาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจาก ตำรวจไม่ให้ญาติและพ่อเข้าไปดูศพของลูกชาย อีกทั้งยังชันสูตรศพนานผิดปกติกว่า 5 ชั่วโมง กระทั่งต่อมาทางตำรวจได้เรียกตัวแทนญาติบางคนเข้าไป พร้อมกันนี้ก็ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
