แฟนนักโทษตายคาคุก จี้ตอบ ยาเสพติดหลุดเข้าเรือนจำได้ไง ด้านพ่อแม่สุดเสียใจ อีกแค่ปีกว่าลูกจะพ้นโทษแต่ต้องมาตายก่อน
จากกรณีสาวร้องเรียนเพจอีจัน ระบุว่า นายพัฒนชิรพงฐ์ บุญญะเสมา แฟนหนุ่มเสียชีวิตในเรือนจำกลางสมุทรปราการ คาดว่าจะถูกทำร้ายร่างกายก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมา อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งเด้ง ผบ.เรือนจำสมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 4 ราย พร้อมยอมรับว่านักโทษถูกสั่งซ่อมวินัย หลังพบมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำ (อ่านข่าว : อธิบดีราชทัณฑ์ รับนักโทษดับในเรือนจำ ถูกสั่งซ่อมวินัยก่อนเสียชีวิตจริง)
อีกทั้งหน้าซองก็ไม่ได้มีการจ่าหน้าซองว่าแฟนตนเป็นผู้รับ และแฟนไม่ได้เป็นผู้เซ็นรับจดหมาย แต่ทางเรือนจำอ้างว่าแฟนตนเป็นคนไปหยิบซองจดหมายคนสุดท้าย และได้มีการเรียกนักโทษ 18 คน ที่อยู่ในแดน 5 มาสอบปากคำ อีกทั้งยังอ้างว่า นายพัฒนชิรพงฐ์ รับสารภาพว่าสารเสพติดเป็นของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าคนตายไปแล้ว พูดไม่ได้ แต่ถึงจะทำผิดเจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรจะทำเช่นนี้ เพราะแฟนตนทำผิดก็เข้าไปรับโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่ตอนนี้กลับไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริง
ส่วนจดหมายฉบับดังกล่าวอยู่ที่สถานีตำรวจเนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญ โดยพ่อแม่ของนายพัฒนชิรพงฐ์ได้ไปแจ้งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่เรือนจำเรียบร้อยแล้ว ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิต ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ
ส่วนสภาพศพของ นายพัฒนชิรพงฐ์ น.ส.วนิชชา ยังรู้สึกติดใจว่า ทำไมถึงมีรอยเชือกมัดอยู่ที่ข้อมือ และมีแผลฟกช้ำตามร่างกาย ซึ่งแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตตอน 16.49 น. ที่โรงพยาบาล แต่ตนทราบข่าวในเวลา 1 ทุ่ม ส่วนเพื่อนผู้ต้องขังรายอื่น ที่โดนลงโทษเช่นเดียวกับแฟนตนไม่ได้ไปที่โรงพยาบาล ยังคงอยู่ที่เรือนจำคาดว่าอาการอาจจะไม่หนักเท่ากับแฟนของตน ส่วนจะเผาศพหรือไม่นั้น ทางญาติยังตกลงกันอยู่ แต่ส่วนตัวอยากให้นำศพไปพิสูจน์ความจริง และนำตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ก่อน แล้วค่อยเผาศพตามพิธีทางศาสนา
ส่วนสาเหตุการตายที่แท้จริงนั้นคาดว่าน่าจะต้องมีการพิสูจน์ศพอีกครั้ง เบื้องต้นพ่อแม่ผู้ตายได้มอบอำนาจให้ตำรวจเป็นผู้หาข้อเท็จจริง เพราะสถานที่เกิดเหตุอยู่ในเรือนจำ ฉะนั้นทางสำนักงานทนายความอาจจะไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ ตอนนี้พ่อแม่ผู้ตายอยู่ในภาวะสูญเสียและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะต่างคาดหวังว่าจะได้เจอกับลูก อีกเพียงปีกว่าลูกชายก็จะได้ออกมาจากเรือนจำแล้ว พอเกิดเหตุแบบนี้ก็เสียใจเป็นอย่างมากบวกกับแม่ผู้ตายกำลังเป็นโรคหัวใจด้วย ส่วนพ่อผู้ตายก็นิ่งเงียบไป
นายชุติพงษ์ บอกอีกว่า กรมราชทัณฑ์ได้มีการติดต่อมาทางครอบครัวแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบเบื้องต้นเกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทน
ภาพและข้อมูลจาก amarintv