
ภาพจาก Sorbis / Shutterstock.com
เรียกได้ว่างานเข้าเต็ม ๆ สำหรับแบรนด์หรูอย่าง Balenciaga ภายหลังจากเกิดประเด็นดราม่าขึ้นในประเทศจีน เมื่อโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ลูกค้าชาวจีนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทาง Balenciaga ที่ห้างแพรงตองป์ ในประเทศฝรั่งเศส เข้าล็อกตัว พร้อมทั้งถูกไล่ไม่ให้ซื้อสินค้า ในขณะที่ลูกค้าชาติตะวันตก สามารถซื้อได้ นำมาซึ่งความโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับชาวจีน มองว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ จนทำให้เกิดกระแสคว่ำบาตรแบรนด์หรูดังกล่าว
โดยรายงานจากเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เผยว่า ในคลิปวิดีโอที่เป็นประเด็น มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมระบุข้อความว่า "ฉันโกรธจนตัวสั่น คนจีนในต่างแดนมักถูกมองเป็นชนชั้นสองเสมอ ฉันมาต่อคิวซื้อรองเท้าผ้าใบรุ่น Triple S ของยี่ห้อ Balenciaga ทุกวัน แต่โดนชาวฝรั่งเศส-แอลเบเนีย ลัดคิวตัดหน้าทุก ๆ วัน แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ จนวันนี้มีหญิงชราชาวจีนรายหนึ่ง ตะโกนเรียกชาวแอลเบเนีย 5 คนที่พยายามลัดคิวเธอ ทำให้คนหนึ่งในกลุ่มนั้นผลักเธอล้มลงและขู่ที่จะทำร้ายเธอ ด้านลูกชายของเธอเห็นเข้าจึงเข้ามาช่วยปกป้องแม่ แต่กลับถูก 5 คนนั้นรุมทำร้าย ทางการ์ดชาวฝรั่งเศสจึงเข้ามาห้ามเหตุ แต่กลับเลือกจัดการชายชาวจีนฝ่ายเดียว ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้ทางร้านประกาศยกเลิกการขาย แต่มันน่าเศร้าเป็นอย่างมากที่สุดท้ายพวกชาวแอลเบเนียซื้อรองเท้าได้ ในขณะที่ชาวจีนที่ยืนต่อคิวซื้อถูกไล่ให้กลับและบอกว่าไม่ต้องกลับมาซื้อรองเท้าที่ร้านอีก"

ตัวอย่างคอมเมนต์ เช่น "ฉันจะไม่ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์พวกคุณอีก คุณมันน่าละอายจริง ๆ", "เมื่อคุณเสียกลุ่มตลาดชาวจีนไป คุณจะได้รู้ว่าจะต้องปฏิบัติกับชาวจีนอย่างไร", "ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่า คุณจะต้องสูญเสียรายได้ไปเท่าไหร่ หลังจากที่พวกคุณทำกับชาวจีนเช่นนี้", "บอกลาตลาดลูกค้าชาวจีนได้เลย" ขณะที่บางรายก็บอกให้ศึกษากรณีของร้านสตาร์บัคส์ก่อนหน้านี้เป็นตัวอย่าง

กระทั่งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2561 ทางแบรนด์ Balenciaga ได้ออกมากล่าวถึงเหตุดังกล่าว ผ่านข้อความแถลงสั้น ๆ ทางโซเชียล ระบุว่า "ทาง Balenciaga รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ห้างในกรุงปารีส ระหว่างที่คุณลูกค้าต่อแถวเพื่อเข้ามาซื้อของที่ร้าน ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าระงับเหตุเพื่อให้สถานการณ์สงบลงแล้ว ทางเราขอโทษอย่างสุดซึ้งต่อทางลูกค้าที่อยู่ ณ ที่นั้น และขอยืนยันว่าทางเราเคารพลูกค้าทุกท่านอย่างเท่าเทียมกัน"
ทั้งนี้ ตามรายงานท้องถิ่นจีนระบุว่า Balenciaga เป็นแบรนด์หรูต่างชาติ ที่ทำรายได้จำนวนมากจากประเทศจีน โดยลูกค้าชาวจีนถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าสำคัญที่ทำให้ยอดขายต่อปีของแบรนด์เติบโตขึ้นถึง 49% โดยก่อนหน้านี้มีแบรนด์และบริษัทชื่อดังระดับโลกหลายรายที่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวจีนมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น แมริออท, เมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือแม้กระทั่ง ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ แต่สุดท้ายต่างก็ต้องยอมให้กับประเทศจีน ออกมาขอโทษอย่างปฏิเสธไม่ได้
จากกระแสโจมตีที่หนักหน่วงดังกล่าว ในที่สุดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2561 ทางแบรนด์ Balenciaga ได้ออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยครั้งนี้เป็นข้อความยาวและมีการระบุชัดเจนว่าขอโทษ "คุณลูกค้าชาวจีน" โดยมีทั้งข้อความที่เป็นภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ใจความว่า "ทาง Balenciaga ขอยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและความหลากหลายของเชื้อชาติ และไม่มีการแบ่งแยกหรือเหยียดชาติพันธุ์อย่างแน่นอน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นรุนแรงขึ้น เราได้มีการตรวจสอบและหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก โดยทางแบรนด์ได้สั่งพักงานผู้จัดการพนักงานไปแล้ว และจะเพิ่มมาตรฐานในการปฏิบัติดูแลลูกค้าใหม่ ทั้งนี้ทาง Balenciaga ขอแสดงความขอโทษอย่างจริงใจต่อคุณลูกค้าชาวจีนทุกคน และยืนยันอีกครั้งว่าเคารพลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียม"


ภาพจาก เฟซบุ๊ก BALENCIAGA
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก france24.com, เฟซบุ๊ก BALENCIAGA






