x close

กลัวซะที่ไหน สันธนะ ลั่นเขาจะเล่นผม เย้ยตำรวจระดับบิ๊ก ก็ไม่ได้บิ๊กสำหรับตน


 สันธนะ ประยูรรัตน์

        สันธนะ เผยเขาจะเล่นผม รับออกจากตำรวจเพราะโดนเชิญให้ออก บอกรอดตายมาหลายครั้งแล้ว เพราะคนยิงไม่แม่น ลั่นถ้าไม่หยุดก็ไม่หยุด ถอยหลังไม่ได้แล้ว

        จากกรณีที่ พ.ต.ท. สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 2 ที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง ได้ออกมาขัดขวาง พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในการนำกำลังเข้าตรวจค้นร้านค้าในตลาด จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ โดย พ.ต.ท. สันธนะ ได้ท้าให้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โทร. หา ไม่งั้นปูดทุกเรื่อง กระทั่ง พล.ต.อ. จักรทิพย์ ได้โทร. กลับมา พ.ต.ท. สันธนะ กลับมีอาการเสียงสั่น ท่าทีอ่อนลง และนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนทิ้งประโยคเด็ดถึง ผบ.ตร. ว่า รักนะ (อ่านข่าว : แฉยับ ! สันธนะ ทวงความจำ บิ๊กแป๊ะ ก่อนขึ้นเป็น ผบ.ตร. โทร. หาพี่กระหน่ำ)

        รายการโหนกระแส วันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทางช่อง 28 เลยขอเปิดใจ พ.ต.ท. สันธนะ ถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้น

 สันธนะ ประยูรรัตน์

ในประวัติทะเลาะกับตำรวจปมเปิดบ่อน ถูกแจ้งความ 10 ข้อหา ถูกลอบยิงถล่มรถ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พาพวกข่มขู่คนตามชายแดน และล่าสุดเรื่องตลาดใหม่ และมีปัญหากับบิ๊กตำรวจท่านหนึ่ง นี่เป็นประวัตินายตำรวจจริง ๆ เหรอ ?

        สันธนะ : นี่ที่คุยมา คนนี้ใคร เขาชื่ออะไร ไปตามตัวมาเลย น่าคบนะ คนคนนี้ (หัวเราะ)

ประวัติตำรวจหรือประวัติโจร ?

        สันธนะ : ผมรับราชการ ถ้าผมประกอบอาชีพตำรวจ ถ้าประวัติแบบนี้ต้องเรียกมาคุยเอาไว้ใช้งานเลย

รอดตายหลายครั้ง ?

        สันธนะ : ครับ (หัวเราะ) อาจไม่ค่อยแม่น มืออาจจะใหม่หน่อย ให้เขาไปฝึกมาใหม่แล้วมาลองอีกที

ท่านรู้สึกยังไง ประเด็นของท่านร้อนแรง กลบข่าวอื่นหมดเลย ?

        สันธนะ : ที่เขาบอกว่าผมเป็นมาเฟีย เขาหาว่าเมื่อ 8 ปีก่อน ถ้าผมเป็นจริง ปล่อยผมไปเพ่นพ่านข้างนอก เขาปล่อยผมมาได้ยังไง ก็ยังเที่ยวสนุกสนาน เฮฮา วันนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าเราจะหยุดพักเลิกเที่ยวเมื่อไรดี แต่ตอนนี้เขาเริ่มมีการดำเนินการให้ผมหยุด

ท่านออกมาแฉ ไม่รู้จริงหรือปลอม ?

 สันธนะ ประยูรรัตน์

        สันธนะ : ไม่ใช่แฉสิ บางทีสังคมมีอะไรในเชิงลึก เป็นเรื่องที่ถึงเวลานี้ต้องรู้ คนส่วนใหญ่ต้องรู้ ต้องทราบ สังคมต้องปรับเปลี่ยนไปเรื่อย แต่อันนี้พอพูดปั๊บทุกคนก็เอาตัวรอด พูดไปแบบนี้ก็เห็นแก่ตัว แต่ผมไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าจะไม่รอดหรือทำแล้วเพื่อตัวเอง ผมก็พอเพียงในระดับหนึ่งแล้ว เอามาป้อนให้สังคมและคืนกลับไปให้เขา

ในปี 2543 ทำไมออกจากตำรวจ ?

        สันธนะ : เขาเชิญออก ถ้าอยู่ต่อไปตำรวจที่เหลือในองค์กร 2-3 แสนคน ทำตัวแบบผม กรมตำรวจจะไม่มีใครทำงานแล้ว ก็เชิญออกดีกว่า (หัวเราะ) อันนี้เรื่องจริง เขาเชิญออกผมก็รีบออกเลย

แต่เป็นคนที่กำความลับเยอะแยะมากมาย ?

        สันธนะ : ออกมาก็ไม่มีความกดดันอะไร เป็นตัวตนเรา ก็แฮปปี้มีความสุข พอเขาเชิญผมออก ผมก็ได้เริ่มต้นชีวิต ผมก็จัดปาร์ตี้เลย เรียกพรรคพวกเพื่อนฝูงมาฉลองเฮฮา ฉลองความเป็นตัวตน จะบอกโสดมั้ยก็ไม่ใช่ เพราะตอนนั้นก็โสดไม่ได้ (หัวเราะ)

หลังเชิญออก ตลอด 10 ปี ชื่อก็วนเวียนอยู่ในสารบบวงการนักเลงหรือมีเรื่องหักโน่นหักนี่ ?

        สันธนะ : เรื่องหักนี่ไม่มี ในภาษาทางเราที่คบค้ากัน ถ้าหักคือจบเลย ต้องเรียกว่าไม่ลงรอยกัน ถ้าหักคงอยู่ร่วมกันไม่ได้ในสังคม

ท่านพูดเรื่องครีมกระปุกเดียว พา ผบ.ตร. ไปตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง แล้วก็พาดมาถึงท่าน ?

        สันธนะ : ผมเห็นว่าประเด็นไม่ใช่แค่ตามที่เจ้าหน้าที่พูดอยู่ทุกวัน มันเยอะไปแล้ว มันพอได้แล้ว มันก็ไม่จบ มันได้ผลกันพอสมควรแล้ว การปัดกวาด เช็ดถู ความผิดในสังคมไม่ใช่จะสามารถทำได้ในวันเดียว แต่ผมไม่อยากไปกล่าวหา แต่เป้าหมายคือต้องการจะดำเนินการกับผมมากกว่า มันเป็นเรื่องบุคคลแล้ว พอมีเรื่องดำเนินการ ก็เริ่มมีชื่อผมออกมา และมีคำที่พูด เขาหาว่าเป็นมาเฟีย

ท่านเป็นที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง ?

        สันธนะ : ก็เป็นนัยให้มีความหมายหน่อย ว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้ ให้เขาทราบกันเท่านั้นเอง ดีนะยังมีการเชิญผมให้ตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา ถ้าหากผมเดินไปเดินมาป่านนี้เขาคงจัดการผมไปแล้ว แต่มันก็ให้ผมดูดีหน่อยมีตำแหน่งให้สมญานามมาเฟีย เกิดผมไม่มีตำแหน่งเดินไปเดินมา เขาก็หาว่าผมเป็นนักเลง ยิ่งตกชั้นเข้าไปอีก

ตกลงท่านอยู่ตลาดใหม่ดอนเมืองทำหน้าที่อะไร ?

        สันธนะ : มันเป็นเรื่องธุรกิจดีกว่า ธุรกิจในภาพรวม มันก็เป็นที่ปรึกษาอยู่แล้ว เพราะเจ้าของตลาดกับผมคุ้นเคยกัน เขาเชิญมาในช่วงที่มีปัญหา ตลาดมีปัญหา 4-5 ปีช่วงหลัง

มีเงินเดือนไหม ?

        สันธนะ : ถ้าเชิญผม แล้วมีเงินตอบแทนมาเสนอ ผมไม่ไปหรอก ที่ไปเพราะเอาใจเชิญผม ผมไปให้ ตรงไหนผมก็ไป

วันที่ท่านรอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตลาดใหม่ดอนเมือง แล้วเห็นภาพท่านไปโวยวาย ท่านเป็นอะไร ?

        สันธนะ : คือเป็นการพูดปกติ แค่เพิ่มวอลลุ่มหน่อยเสียงเลยดังไปนิดนึง

ท่านพูดว่าอย่าโดนตัวผม ถ้าโดนตัวผมแสดงว่าเป็นตำรวจที่ใช้ไม่ได้ ไม่ให้เกียรติ ?

        สันธนะ : วันนั้นทาโลชั่นไป เลยบอกอย่าโดนตัว (หัวเราะ) อย่างการปฏิบัติเราก็เคยเป็นตำรวจมา ผมก็อยู่คนเดียว ไม่ได้มีใครเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมกลัวผมจะเหงาขนาดนี้ ให้ความอบอุ่นผมทั้งหน้า-หลัง ล้อมรอบมากมายไปหมด

ก่อนหน้านี้เราไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ?

        สันธนะ : คนของผมก็จอดรถ มาถึงที่หมายผมก็จอดรถ แล้วก็เดินมา เพราะมีสื่อมวลชนหลายคนมา ก็คงจะคุยสอบถามผมมั้ง ผมเลยเดินไปหาก็เท่านั้นเอง เพียงแต่ว่าระหว่างพูดคุย ผมก็สังเกตเห็นใครไปวุ่นวายอะไรกับรถยนต์ผม อันนั้นคือทรัพย์สินส่วนตัวผม ถูกต้องมั้ย ผมก็ชี้ว่าทำอะไร เขาก็บอกว่าจะปฏิบัติหน้าที่จะตรวจค้นรถยนต์ของผม อ้าว ก็ผมทำผิดอะไร วันนั้นการตรวจค้นก็ไม่เห็นมีสิ่งผิดกฎหมายอะไร เขาทำกับผมมากมายขนาดนี้ หมายความว่าไง แต่ในเชิงตำรวจ เพราะเราเคยเป็นอดีตตำรวจลักษณะนี้เนื่องจากว่าเขารุมล้อมเรามองไม่เห็น เปิดไม่ใช่ประตูเดียว เปิดหมดทุกประตู ประตูหลังก็เปิด สิ่งผิดกฎหมายที่ว่าผมไม่มี แต่เดี๋ยวเขาจะแถมให้เข้าไป ผมก็ต้องระมัดระวัง ห้ามให้เขาหยุดก็ไม่หยุดถึงแม้จะมีคนของผมอยู่แต่เขาอยู่คนเดียวไง แต่คุณล้อมประตูรถผม เห็นมั้ยมีกี่ประตู ตั้ง 5 ประตู เอาตรงไหนไปมอง ไปดู ไปตรวจสอบหากมีอะไร รถผมมาสองคันพร้อมกัน

จริง ๆ แล้วท่านจะบอกว่าท่านแปลกใจในเมื่อตรวจร้านค้าแล้วทำไมต้องตรวจรถท่าน ?

        สันธนะ : ก็ไม่รู้ความประสงค์ เขาไม่ได้แจ้ง ผมก็มาปกติ นี่ก็เป็นสถานที่เป็นตลาดที่ผมเป็นที่ปรึกษาอยู่ ถูกมั้ย

มีการสอบอาจพัวพันพาดพิงมาถึงท่านว่าท่านเก็บส่วย ?

        สันธนะ : เพราะองค์ประกอบทางมาเฟีย แต่ในภาษากฎหมาย เขาเรียกอั้งยี่ ซ่องโจร มันต้องมีเรื่องผลประโยชน์รายได้ที่ไม่ถูกต้อง เขาก็พยายามหาให้ได้ว่ามีมั้ย ตรงไหน แต่ทุกวันนี้ผมออกไปธุระหรือพบปะใคร ผมมีแต่ออกแล้วก็จ่าย ๆ ผมไม่ได้ออกไปแล้วหิวโหยไปกระโดดเก็บคว้าตรงนั้นกินตรงนี้ ไม่มี บางคนอยากให้ออกเพราะคิดถึงผม ผมก็เข้าใจ เขาคงมีความเดือดร้อนด้วย เมื่อพบผม ผมสามารถพูดคุย ช่วยเหลือกันในสังคม

แล้วเงินที่ตลาดจ่าย ?

        สันธนะ : ผมไม่เคยรับเงินบริษัท รายได้เขาก็เข้าบริษัท ส่วนที่มีการเก็บค่าส่วนกลางพวกนั้นเป็นเรื่องพนักงานตลาด เขาก็ไม่ได้อยู่ในออฟฟิศ เขาก็ดำเนินการ แล้วก็แบ่งสันปันส่วนกัน

มีมาถึงท่านส่วนตัวไหม ?

        สันธนะ : ผมเอามั้ยล่ะ ผมบอกว่าเวลาผมออกมาวันหนึ่ง ผมก็ออกซ้ายออกขวา เพราะผมนึกถึงทุกคน

แล้วไปให้เขาทำไม ?

        สันธนะ : ก็ความเดือดร้อนของคน ต้องเข้าใจในทุกสภาวะ หรือถ้าสภาพเศรษฐกิจดี น้อง ๆ เขาดูแลเราดี ผมก็แจกจ่ายให้คนที่เขามาดูแลเรา มันเป็นน้ำใจ

แล้วแม่ค้าล่ะ ?

        สันธนะ : นี่ผมพูดในลักษณะของผม ว่าผมออกทุกวันนี้ ออกมาเพื่อพบปะพรรคพวกเพื่อนฝูงพี่น้อง ไม่ใช่ออกมาคุณมีเงินเท่าไหร่ เก็บตรงนั้น เอาตรงนี้ มันไม่ใช่ตัวผม ในสถานการณ์ตรงนี้เขากลับไปบอกว่าที่ผมออกไปเพื่อหาประโยชน์ ลองไปเที่ยวกับผมสักคืนจะรู้ ใครเคยเที่ยวกับผมจะทราบจะเข้าใจ

เรื่องเที่ยวก็อาจไม่เกี่ยวกับธุรกิจสีเทา ?

        สันธนะ : อย่าพูดเฉพาะแค่ตลาดใหม่ดอนเมืองดีกว่า ผมไม่ได้มีถิ่นพำนักอยู่แค่ตลาดใหม่นะ ผมไปทุกที่ ทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืน หลาย ๆ สถานที่ ถ้าผมมีลักษณะเหมือนที่ตลาดใหม่ดอนเมือง วัน ๆ โทษเถอะ ต้องขออนุญาต กทม. มาใส่เงิน ถ้าผมเป็นคนนิสัยแบบนั้น เพราะผมไม่ได้มาตลาดใหม่ที่เดียว

แล้วคำว่ามาเฟียมาจากไหน ?

        สันธนะ : ถ้าผมเป็นมาเฟียแล้วไปแจกเงิน แบบนี้ความหมายคืออะไร

เป็นโรบินฮู้ดเหรอ ?

        สันธนะ : ก็ไม่เป็นไร

เอาเงินคนนี้มาจ่ายคนนั้น ?

        สันธนะ : ก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าจะเอามาทางธุรกิจ ก็ผิดเหมือนกัน เพราะคนเราก็ต้องมีธุรกิจ แต่ผมมีธุรกิจที่ต่างประเทศ ไม่ได้หมายความว่าต้องไปรับส่วยเขามา ผมถือว่าผมไม่ได้ทำมาหากินในประเทศ ถ้าคนทำมาหากินในประเทศเขาต้องจ่ายภาษี สรรพากร ผมโชคดีมีกิจการอยู่ต่างประเทศ เมื่อผมกลับมาผมก็เอาส่วนต่างที่ผมไม่จำเป็น ผมกลับมาเพื่อจะแจก เพื่อจะคืน นี่คือการจ่ายภาษีสังคมของผม

ยืนยันว่าไม่ได้เก็บส่วย ไม่ได้รับส่วย แล้วทำไมต้องเดือดถึงขนาดโทร. หาท่าน ผบ.ตร. ?

        สันธนะ : ผมห่วงผู้ค้า คนที่เขามีรายได้น้อย ชีวิตวันต่อวัน มื้อต่อมื้อ มันลำบากนะมันไม่ได้นะ

กำลังจะบอกว่ารอง ผบ.ตร. ทำให้เขาค้าขายลำบาก ?

        สันธนะ : ณ วันนี้เป็นยังไงล่ะ ณ วันนี้ตลาดเขาเป็นยังไง มีใครรับผิดชอบเขาบ้างมั้ย พอคุณจับปุ๊บ เสร็จภารกิจคุณประกาศ ผู้ค้าใครเข้ามาได้ มีลูกค้าประชาชนคนไหนเข้ามาในตลาดอีก เขาจะค้าขายได้ยังไง ผู้ค้าขายกันเองได้เหรอ

เป็นสิ่งที่ในฐานะที่ปรึกษาเลยต้องออกหน้า ?

        สันธนะ : ใช่สิ เพราะวันหนึ่งก็เสียหายมากแล้ว วันแรกผมไม่ได้ไปยุ่งนะไม่ได้ขัดขวางอะไรเขา เห็นเขาปฏิบัติหน้าที่ก็ให้เขารีบ ๆ ทำไป ให้เขาจัดการให้เสร็จ วันที่มีเรื่องเป็นวันที่สอง รู้สึกจะติดใจ ไม่ยอมกลับ นี่ไม่ได้เป็นแฟนกันนะ มาจีบเราเสร็จติดใจไม่กลับ อยู่เลย กินอยู่หลับนอนกับเราเลย

ทำไมท่านคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการมาจับครีมอาหารเสริมแต่ชี้ชัดที่ท่านเลย ?

        สันธนะ : ก็เขาพูดทิ้งไว้ไง มีอดีตนายตำรวจเกี่ยวข้องคอยปกป้องคุ้มครองหาประโยชน์จากสถานที่นี้ อ้าว แล้วมันจะมีใคร ไม่ต้องคิด ผมเชื่อเลย คนที่มาปฏิบัติก็มีปัญหาส่วนตัวกันอยู่ ส่วนในทางสังคมผลประโยชน์องค์กรนี้ เดี๋ยว ๆ เราก็ไปขวางเขา เราทำให้เขาเสียหายอยู่เรื่อย เรื่องผลประโยชน์ใต้โต๊ะบัญชี หรือที่บอกว่าสีเทาที่ผมไปเกี่ยวข้องสีเทาเขาเดือดร้อนนะ

ท่านจะบอกว่าท่านไม่ใช่สีเทา แต่มีอีกกลุ่มสีเทา ?

        สันธนะ : ก็พวกเขากับเจ้าหน้าที่ที่เขาเรียกรับผลประโยชน์

แต่โยนมาให้ท่าน ?

        สันธนะ : ก็เนื่องจากเขาเกรงว่าผมรู้ ว่ามีการให้กับเจ้าหน้าที่ เขาจะประกอบการไม่ได้บางคนนะ ที่ไม่เคยคุ้นเคยกับผม ไม่เคยคบค้า ก็ระแวดระวัง เขากลัวเสียผลประโยชน์ ผมไม่ได้เอาประโยชน์จากเขา จะเสียได้ยังไง ไม่ได้ออกตัว

ก่อนหน้านี้มีประเด็นข่าวออกมาว่าท่านมีปัญหากับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ?

        สันธนะ : ถ้าบอกว่าเป็นนายตำรวจแล้วชั้นผู้ใหญ่ ไม่ได้ใหญ่สำหรับผม เพราะผมไม่ได้คบคนที่ความยิ่งใหญ่ ในอดีตที่ผ่านมาใหญ่ต้องใหญ่จากการยอมรับ ไม่ใช่ไปแสดงอำนาจบารมีหรือไปเบ่งให้เขาเห็นว่าตัวเองใหญ่ ไม่ใช่ความหมายของผม ผมไม่มีปัญหาหรอก แต่ผมคิดว่าเขาอยากมีปัญหากับผม ผมก็พร้อมนะ ผมไม่ได้เข้าไปมีปัญหา หรือไปสร้างปัญหา ผมไม่ได้เป็นคนสร้างเหตุ แต่เมื่อเขาอยากให้มีเหตุ ผมก็เลี่ยงไม่ได้

ก็ต้องชน ?

 สันธนะ ประยูรรัตน์

        สันธนะ : ไม่ต้องชนหรอกครับ ผมอยู่เฉย ๆ เขาเดินมาสะดุดผมเอง ก็ช่วยไม่ได้ คำว่ามาเฟียปรากฏขึ้นมาหลังมีเหตุการณ์ มีคำนี้ขึ้นมาตลอดก็อยากจะถามว่าผมเป็นมาเฟียใช่มั้ย เท่านั้นแหละที่อยากจะถามจะได้ไปถามเขาต่อได้ แล้วถ้าบอกว่าผมเป็นมาเฟีย คุณคบกับผมทำไมถ้าบอกผมเป็นมาเฟีย คุณก็คบมาเฟียนะ ทางโน้น รองโฆษก ก็เลยบอกว่าผมพูดไปเอง เป็นเรื่องละเมอเพ้อ ผมเลยต้องสวนกลับอีก แจงให้ทราบเป็นฉาก ๆ ไป

แบบนี้จะทำยังไง เห็นท่านบอกว่ารักนะ ?

        สันธนะ : ก็รักจริง ๆ นะ สมัยก่อน

สมัยนี้ล่ะ ?

        สันธนะ : เคยจีบผู้หญิงหรือเปล่าล่ะ (หัวเราะ) ถ้าพูดให้เต็ม รักจริงก็ทิ้งจริง จบข่าว

ล่าสุดท่านยื่นหนังสือถึงท่านนายกฯ ?

        สันธนะ : ผมก็ไม่คาดหวังว่าท่านจะต้องลงมาเจอ ผมเป็นประชาชนคนเดียวในประเทศนี้

ท่านบอกอีกไม่กี่วันก็ตายแล้ว ?

        สันธนะ : เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าผมไม่มีกระบวนการอะไรที่จะเซฟตัวเอง เพราะผมไปร้องขอให้เจ้าหน้าที่รัฐสีไหนก็ช่างเถอะมาดูแลความปลอดภัยของผมก็ไม่ใช่ เพราะที่ผมออกมาพูด ที่ใช้คำว่าแฉ ผมไม่ได้แฉ ผมเอาข้อเท็จจริงมาพูดให้สังคมรู้มันเป็นเรื่องเสียผลประโยชน์เขาทั้งนั้น แล้วเขาจะมารัก ห่วงใยอะไรผม

มีหลักฐานในมือ ?

 สันธนะ ประยูรรัตน์

        สันธนะ : ใช่ ถ้าไม่จริง ผมพูดไม่ได้ ถ้าไม่จริง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ ชีวิตผมอยู่จนถึงวันนี้ไม่ได้

เป็นไปได้ไหม ท่านเป็นแมวเก้าชีวิต ผ่านการถูกยิง ลอบยิง ระเบิดก็ผ่านมาหมดวันนี้เลยลุยแหลก ?

        สันธนะ : วันนี้ไม่ใช่แมวเก้าชีวิต เป็นเสือหมอบ เป็นจักรยาน แต่เดี๋ยวนี้มีเกียร์นะ เร่งสปีดอีกนิดนึง อีก 2 วันเดี๋ยวมีอีก เร่งสปีดนิดหน่อย

เรื่องนี้ยาวมาก ?

        สันธนะ : ถ้าไม่หยุด ผมก็ไม่หยุด

วันนี้มีผู้ใหญ่มาบอกว่าอย่าไปให้ค่ากับคนแบบนี้ ?

        สันธนะ : ท่านบอกไม่มีราคา ไม่ทราบนะ ไม่เคยมีใครนำผมไปประมูล ผมเลยไม่รู้ราคา

ทุกวันนี้กลับบ้านไม่ได้ ?

        สันธนะ : ยังกลับไม่ได้ จริง ๆ ชีวิตยามราตรีผมมีความสุขที่สุด แต่เดี๋ยวนี้ราตรีช่างยาวนาน พอค่ำมาเราต้องนับถอยหลัง ว่าชีวิตเราจะอยู่ถึงดูพระอาทิตย์ขึ้นมั้ย

แล้วจะทำยังไงต่อไป จะอยู่อย่างนี้หรือจะยังไง ถอยสักก้าวสองก้าวได้ไหม ?

        สันธนะ : ถอยไม่ได้ หกล้มทันที แค่ยืนเฉย ๆ หยุดนิ่งก็แพ้แล้ว เพราะเวลาชีวิตมีจำกัดจะทำอะไรให้ประชาชนสังคมหรือรุ่นเจเนอเรชั่นให้เขาเห็น เราต้องรีบทำเขาจะได้รู้ว่ามีแบบอย่างอะไรที่สามารถทำแล้วช่วยกันประคับประคอง

ครอบครัวทำยังไง ?


        สันธนะ : เขาเข้าใจ ในวัยหนุ่มของผม ผมใช้ชีวิตช้า เขาอาจไม่เห็นภาพผมดุดันเหมือนเมื่อก่อน แต่การใช้ชีวิตกับผม เขาเข้าใจ เพราะเจอมาตลอดเป็นระยะ ๆ ก็ผ่านมา

รู้สึกยังไงเคยเป็นอดีตนายตำรวจ แต่วันนี้ทุกคนขนานนามว่ามาเฟีย จากตำรวจเป็นผู้ร้าย ?

        สันธนะ : แล้วผมร้ายกับพวกเขามั้ยที่เขาเห็น ผมก็ใช้ชีวิตปกติในสังคม แต่เมื่อมีสัญญาณจากผู้มีอำนาจพูดถึงผมตรงนั้น ผมต้องระวัง เขาไม่ได้พูดแบบจะเมตตาเลยนะ บางคนที่ผมพูดเขาไร้เมตตา แต่ใหญ่กว่านั้นยิ่งซ้ำลงมาอีก สัญญาณนี้อันตรายมั้ย ไม่ใช่ไฟเหลือง มันแดงเข้มนะ

ทุกสิ่งที่พูดมา ท่านคิดไปเองหรือเปล่า ?

        สันธนะ : ใครมาเป็นผู้กำกับให้ผม บอกสิ ผมก็อยู่คนเดียว เวลามีเหตุก็มีคนเดียว ข้างหลังก็ไม่มีใคร นี่ไม่ใช่หนัง ไม่ใช่ละคร

อยากฝากอะไรถึงใคร ?

        สันธนะ : ผมฝากชีวิตของผมกับประชาชน พี่น้อง สังคมจะมองผมยังไงก็ช่าง ถ้าไม่รักษาชีวิตผมไม่เป็นไร แต่ถ้าหากผมสูญสิ้นไปวันไหน วันนั้นประชาชน สังคมจะเข้าใจผมดี



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กลัวซะที่ไหน สันธนะ ลั่นเขาจะเล่นผม เย้ยตำรวจระดับบิ๊ก ก็ไม่ได้บิ๊กสำหรับตน อัปเดตล่าสุด 11 พฤษภาคม 2561 เวลา 18:17:58 22,890 อ่าน
TOP