ผบก.ป. ยอมรับ มีพระคดีเงินทอนวัด เสพเมถุน จริง พร้อมเสนอประจานให้สังคมรับรู้

ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม ยอมรับ พระผู้ใหญ่บางรูปในคดีเงินทอนวัด เสพเมถุน-เลี้ยงหมอนวดจริง แต่ไม่ขอยุ่ง ให้เป็นหน้าที่ของมหาเถระสมาคมตัดสิน ด้านทนายความพระพรหมดิลก เตรียมยื่นเพิกถอนหมายจับ หลังยื่นขอประกันตัวแต่ศาลไม่อนุญาต

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่ รวม 5 รูป ไปฝากขังผลัดแรก โดยศาลมีคำสั่งให้สึกจากความเป็นพระ หลังพบมีเอี่ยวคดีทุจริตเงินทอนวัด ขณะที่อีก 2 ผู้ต้องหา คือ พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ และ พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ฯ ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งต่อมาการสืบสวนในเชิงลึกของชุดสืบสวนกองปราบฯ ยังพบว่า พระผู้ใหญ่บางรูปที่ถูกออกหมายจับนั้น มีพฤติกรรมเสพเมถุน และมีพระผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ถูกออกหมายจับครั้งล่าสุด มีพฤติกรรมเสพเมถุนเข้าข่ายอาบัติปาราชิกด้วย (อ่านข่าว : หมอนวดแฉพระเงินทอนวัด เสพเมถุนตอนจัดเดินจงกรม - เปย์แหลก - ตั้งตัวเป็นเฮีย)

ล่าสุด (27 พฤษภาคม 2561) รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) ได้เผยถึงกรณีดังกล่าว โดยยอมรับว่า เป็นเรื่องจริงที่มีพระผู้ใหญ่บางรูปมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับสีกาคนสนิท ซึ่งพบจากแนวทางการสืบสวนแต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นพระผู้ใหญ่รูปใด

แม้ว่ากรณีนี้จะไม่เป็นการกระทำความผิดอาญา แต่เจ้าหน้าที่ก็จะทำบันทึกการสืบสวนเพื่อเสนอไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ทราบถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมควรประจานให้สังคมรู้ และขั้นตอนต่อไปสำนักพุทธฯ ก็จะเสนอไปยังมหาเถระสมาคมเพื่อเป็นข้อมูลพิจารณาในการปลดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว โดยการปลดนั้นจะเป็นมติของมหาเถระสมาคมที่จะพิจารณาต่อไป

สำหรับการติดตามตัว พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และ พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามฯ สองผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีนั้น ขณะนี้ในส่วนของกองปราบยังไม่ได้รับการติดต่อมอบตัวมาอย่างเป็นทางการ และได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนตามตัวและกดดันอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของ พระพรหมสิทธิ จากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าจะยังซ่อนตัวอยู่ภายในวัดสระเกศฯ หรืออยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนพระพรหมเมธี ก็เช่นกันไม่ได้หนีไปไหนไกล

ขณะที่ สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายโกศล ใสสุวรรณ ทนายความพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นขอประกันตัวพระพรหมดิลกไปแล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต ซึ่งทางทีมทนายจึงอยู่ระหว่างดูข้อกฎหมาย เพื่อขอเพิกถอนหมายจับ เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าการออกหมายจับครั้งนี้ จะมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะพระพรหมดิลกเป็นพระชั้นปกครอง ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ดังนั้นการสอบสวนดำเนินคดี จะต้องผ่านการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลความผิดก่อน

อีกทั้งการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อออกหมายจับคดีฟอกเงินโดยตรงนั้น ทีมทนายกำลังพิจารณาข้อกฎหมายอยู่ว่า เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตำรวจมีอำนาจโดยตรงในการขอหมายจับหรือไม่ หากได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากเป็นการออกหมายจับโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทีมทนายก็จะยื่นศาลขอเพิกถอนหมายจับ เพื่อให้การจับกุมตัวพระพรหมดิลก รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่รูปอื่น ๆ เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น และขอปล่อยตัวพระพรหมดิลกออกจากเรือนจำ

นอกจากนี้ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงห่วงใยสถานการณ์พระพุทธศาสนา ขอให้ทุกฝ่ายเร่งทำความเข้าใจประชาชน พร้อมเดินหน้าประชุม มส. ตามปกติ 30 พฤษภาคม นี้ พิจารณาชี้ขาด ตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงทั้ง 2 วัด

ภาพและข้อมูลจาก