ตำรวจเผยอดีตสามีเจ๊อ้อย เศรษฐินีสงขลา ยังปฏิเสธ - คาดวิธีการฆ่าสุดเลือดเย็น จับหัวโขกผนัง ก่อนบีบคอจนสิ้นใจแล้วขนศพไปเผานั่งยาง
สืบเนื่องจากที่ นายกฤษฎา ไหมขาว อายุ 49 ปี ผู้ต้องสงสัยฆ่านั่งยาง นางสาวภิญญดา แป้นจันทร์ หรือ เจ๊อ้อย อายุ 48 ปี เศรษฐินีชาวหาดใหญ่ ที่เบื้องต้นเข้ามอบตัวแล้ว หลังหลบหนีไป แต่เจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : พบเบนซ์หรูเศรษฐินีถูกฆ่าซุกบ้านญาติอดีตสามี คาดใช้ยัดศพไปเผานั่งยาง)
ล่าสุด (5 มิถุนายน 2561) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าหลังการสอบปากคำนายกฤษฎา ว่า เจ้าตัวยอมรับว่าอยู่กับผู้ตาย และมีปัญหาทะเลาะกันจริง แต่ก็ยังคงให้การภาคเสธว่าไม่ได้เป็นคนฆ่า ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ จะขอให้การในชั้นศาล โดยระหว่างการสอบสวน นายกฤษฎามีสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความสะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบางครั้งก็ยิ้ม และหัวเราะออกมาด้วย
พล.ต.อ. วิระชัย เผยต่อว่า แม้ว่านายกฤษฎา จะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่จากพยานและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจน เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้แน่นอน และเบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อหานายกฤษฎาไปแล้ว 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นทำลายศพ, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมคัดค้านการประกันตัว
ทั้งนี้ สำหรับชนวนเหตุการลงมือ เบื้องต้นทราบว่าอาจมาจากปัญหาเรื่องชู้สาว ที่นายกฤษฎาเกิดความไม่พอใจผู้ตายที่ด่าทอ หลังพบว่าพาหญิงอื่นมานอนค้างที่บ้าน โดยเพื่อนบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน ตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็น ก่อนจะเงียบไปช่วง 1 ทุ่ม จึงเชื่อว่าเวลานั้น เป็นช่วงที่นายกฤษฎาทำร้ายผู้ตายด้วยการจับหัวกระแทกกับขอบประตูและผนังบ้าน บีบคอจนขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ก่อนจะขนศพใส่รถเบนซ์ที่พบถูกนำไปจอดฝากไว้ที่บ้านญาติก่อนหน้านี้ นำไปเผานั่งยางเพื่อหวังอำพรางคดี
![เผานั่งยาง เผานั่งยาง]()
![เผานั่งยาง เผานั่งยาง]()
ภาพและข้อมูลจาก


สืบเนื่องจากที่ นายกฤษฎา ไหมขาว อายุ 49 ปี ผู้ต้องสงสัยฆ่านั่งยาง นางสาวภิญญดา แป้นจันทร์ หรือ เจ๊อ้อย อายุ 48 ปี เศรษฐินีชาวหาดใหญ่ ที่เบื้องต้นเข้ามอบตัวแล้ว หลังหลบหนีไป แต่เจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : พบเบนซ์หรูเศรษฐินีถูกฆ่าซุกบ้านญาติอดีตสามี คาดใช้ยัดศพไปเผานั่งยาง)
ล่าสุด (5 มิถุนายน 2561) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าหลังการสอบปากคำนายกฤษฎา ว่า เจ้าตัวยอมรับว่าอยู่กับผู้ตาย และมีปัญหาทะเลาะกันจริง แต่ก็ยังคงให้การภาคเสธว่าไม่ได้เป็นคนฆ่า ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ จะขอให้การในชั้นศาล โดยระหว่างการสอบสวน นายกฤษฎามีสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความสะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบางครั้งก็ยิ้ม และหัวเราะออกมาด้วย

พล.ต.อ. วิระชัย เผยต่อว่า แม้ว่านายกฤษฎา จะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่จากพยานและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจน เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้แน่นอน และเบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อหานายกฤษฎาไปแล้ว 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นทำลายศพ, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมคัดค้านการประกันตัว
ทั้งนี้ สำหรับชนวนเหตุการลงมือ เบื้องต้นทราบว่าอาจมาจากปัญหาเรื่องชู้สาว ที่นายกฤษฎาเกิดความไม่พอใจผู้ตายที่ด่าทอ หลังพบว่าพาหญิงอื่นมานอนค้างที่บ้าน โดยเพื่อนบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน ตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็น ก่อนจะเงียบไปช่วง 1 ทุ่ม จึงเชื่อว่าเวลานั้น เป็นช่วงที่นายกฤษฎาทำร้ายผู้ตายด้วยการจับหัวกระแทกกับขอบประตูและผนังบ้าน บีบคอจนขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ก่อนจะขนศพใส่รถเบนซ์ที่พบถูกนำไปจอดฝากไว้ที่บ้านญาติก่อนหน้านี้ นำไปเผานั่งยางเพื่อหวังอำพรางคดี

ประกอบกับ จากการสอบสวนลูกชายของผู้ตาย ให้การว่า วันที่เกิดเหตุ ได้มีการโทร. หาแม่ แต่คนที่รับสายคือ นายกฤษฎา ซึ่งผิดนิสัยแม่ เพราะปกติจะไม่ให้ใครรับโทรศัพท์ โดยเฉพาะเป็นนายกฤษฎา


ภาพและข้อมูลจาก
