นักภูมิศาสตร์ เผยถ้ำหลวง บางช่วงมีน้ำท่วมมิดเพดาน-มีทางเข้า-ออกทางเดียว

นักภูมิศาสตร์เผย เคยสำรวจถ้ำหลวงเมื่อ 26 ปีที่แล้ว พบหากฝนตก ในถ้ำบางช่วงจะมีน้ำท่วมมิดเพดาน เผยอาจมีโอกาสรอดถ้าอยู่โถงใหญ่ เพราะมีที่สูงรอจนน้ำลดได้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Anukoon Sorn-ek

จากกรณีที่มีรายงานว่าทีมฟุตบอลเด็กชายอายุระหว่าง 13-15 ปี พร้อมโค้ช จำนวนอย่างน้อย 6 ราย หายตัวเข้าไปในถ้ำ ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเจ้าหน้าที่เร่งตามหาตัวสุดกำลัง ขณะที่ผู้ปกครองเฝ้ารอความหวังด้วยความร้อนใจ กลัวลูกเข้าไปแล้วไม่ได้กลับออกมาอีก [อ่านข่าว : เร่งตามหา ! ทีมฟุตบอลเด็กหายตัวไปในถ้ำ พ่อ-แม่ร้อนใจ กลัวเข้าไปแล้วไม่ได้กลับออกมา คลิก]

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 24 มิถุนายน 2561 นายอนุกูล สอนเอก นักภูมิศาสตร์ที่เคยสำรวจถ้ำดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anukoon Sorn-ek ระบุว่า จากประสบการณ์ที่เคยสำรวจถ้ำหลวงครั้งแรกเมื่อ 26 ปีที่แล้ว พบว่าถ้ำมีความลึกประมาณ 6 กิโลเมตร หลายส่วนของถ้ำมีเพดานต่ำ น้ำท่วมทุกปี และบางส่วนน้ำจะท่วมจนมิดเพดานระยะทางยาวเป็นร้อยเมตร

ภาพจาก สถานีตำรวจภูธร แม่สาย

พื้นที่บางส่วนของถ้ำ สามารถใช้เป็นทางลัดหลีกเลี่ยงน้ำท่วมได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด หากเด็ก ๆ อยู่โถงด้านใน จะมีโอกาสรอดชีวิตเพราะมีที่สูงพอให้หลบน้ำท่วมได้ แต่หากอยู่ในพื้นที่ช่วงกลางถ้ำ จะไม่มีพื้นที่ปลอดภัย

ขณะที่นักภูมิศาสตร์ อีกรายก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า จากการที่ตนไปสำรวจ ก็พบน้ำท่วมแบบนี้ โดยน้ำจะท่วมบริเวณทางเข้าถ้ำหลังจากฝนตก ซึ่งหากอยู่ในโถงถ้ำจะไม่รู้เลยว่าด้านนอกฝนตก โดยน้ำฝนจะไหลลงตามรอยแยก รอยแตกของถ้ำมายังจุดที่ต่ำกว่า และเริ่มท่วมปากถ้ำ บางจุดต้องย่อตัวเพื่อมุดลอดเข้าไป หากเด็ก ๆ และโค้ช อยู่บริเวณโถงใหญ่ก็อาจจะปลอดภัย

นักภูมิศาสตร์ ได้เผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ถ้ำนี้มีทางเข้า-ออกทางเดียว ระบบระบายอากาศไม่ดี ถ้าจะใช้วิธีการสูบน้ำออกควรตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ด้านนอก ไม่งั้นปริมาณ Co2 ภายในถ้ำจะสูงขึ้นทำให้การช่วยเหลือทำได้ยากและมีความเสี่ยงมากขึ้น ตำแหน่งที่คาดว่าเด็ก ๆ น่าจะอยู่ (ตำแหน่งวงกลมสีแดง) ลึกที่สุดบริเวณปลายสุดของ Show cave น่าจะประมาณไม่เกิน 1 กิโลเมตร จากปากถ้ำ ถ้าเลยนี้ไปด้านในที่เป็นเส้นทางแคบและซับซ้อนหาเจอยากมาก คิดว่าคนทั่วไปไม่น่าหาเส้นทางเข้าไปด้านในได้ อีกอย่างถ้าเด็ก ๆ ถอดรองเท้าและวางเป้ไว้ แสดงว่าพื้นถ้ำมีน้ำท่วมออกมาถึงด้านนอกแล้วแต่ยังไม่ลึกมาก แปลว่าด้านในจะมีน้ำท่วม มีโคลนมากเขาคงไม่เข้าไปลึกมาก อาจจะมีปัญหาเรื่องแสงสว่างเลยหาทางออกจากถ้ำไม่ได้และระดับน้ำขึ้น

ส่วนอันตรายที่สุดสำหรับทีมดำน้ำที่จะดำเข้าไปเป็น Section แรกที่วงสีน้ำเงินเอาไว้ เนื่องจากเส้นทางเข้าแคบต้องมุดเข้าไปและน้ำจะอัดผ่านช่องนี้ออกมา อันตรายสำหรับทีมที่ดำน้ำขาออก แต่ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้แล้วเส้นทางด้านในจะกว้างขึ้นสามารถเดินได้ ข้อมูลเผื่อทีมช่วยเหลือจะนำไปใช้ในการวางแผนได้นะครับ

สำหรับวิธีการช่วยเหลือ ต้องทำให้พื้นที่น้ำที่ท่วมเพดานถ้ำลดลงก่อน ลำธารที่เกิดขึ้นในถ้ำเกิดจากฝนตกบนต้นน้ำและไหลซึมตามรอยแตกเข้ามา เวลาน้ำในถ้ำเริ่มขึ้นจะลงค่อนข้างยาก วิธีดีที่สุดจะต้องสูบน้ำออกให้มากกว่าปริมาณน้ำเข้า ต้องคำนวณปริมาณน้ำที่ไหลในลำธารในถ้ำว่ามีปริมาณกี่ ลบม.ต่อวินาที และระดมเครื่องสูบน้ำให้ปริมาณน้ำสูบออกมากกว่าปริมาณน้ำธรรมชาติ พื้นที่ส่วนเพดานถ้ำที่จมอยู่ถึงจะลด แต่ต้องไม่มีปริมาณฝนตกบนภูเขามาเพิ่มปริมาณน้ำในถ้ำอีก ดังนั้นต้องรีบสูบน้ำออกในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้ช่วยเหลือ อย่าสูบน้ำออกโดยไม่มีหลักการ

ภาพจาก สถานีตำรวจภูธร แม่สาย

อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 01.20 น.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Anukoon Sorn-ek, Suntorn Uppamarn