ลีน่าจัง แจ้งความเอาผิด พลอย เฌอมาลย์ ยืนยันไม่บ้า คนอีก 50 ล้านเห็นด้วย

           ลีน่าจัง ยอมรับ รู้สึกไม่ปลอดภัยกับชีวิต หลัง พลอย เฌอมาลย์ คอมเมนต์ว่า บ้า พร้อมยืนยัน รัฐบาลทำผิด ใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน เอาเงินไปให้เด็ก 12 คน และโค้ชเอกที่เป็นคนต่างด้าวไม่มีสัญชาติไทย
           หลังจากเกิดกรณีที่ ลีน่าจัง ได้ออกมาขู่ว่า จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับ พลอย เฌอมาลย์ กรณีที่พลอยไปคอมเมนต์ต่อว่าลีน่าจังว่า บ้า และพลอยก็ยืนยันว่า ตนเองคอมเมนต์จริง ถ้าไม่ได้ทำก็คงไม่ต้องคิดมาก ซึ่งทำให้ล่าสุด (24 กรกฎาคม 2561) ลีน่าจัง ได้ไปที่กองปราบปราม พร้อมกับการแจ้งความดำเนินคดีกับพลอย เฌอมาลย์

           ทั้งนี้ ลีน่าจัง เผยว่า ที่ตนมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจาก พลอย เฌอมาลย์ ได้โพสต์ข้อความด่าตนว่า บ้า เนื่องจากตนไปแจ้งตำรวจเรื่องโค้ชเอกบุกรุกถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ก่อนหน้านี้ตนไปแจ้งความที่ สน.พญาไท แต่คดีไม่คืบหน้า ตนจึงต้องมาแจ้งความที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

           ชีวิตของตนตอนนี้ ตนออกจากบ้านไม่ได้ หิวข้าวก็ออกจากบ้านไม่ได้ ที่ตอนนั้นตนไปแจ้งจับนั้นคือ โค้ชเอก ที่บุกรุกถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตนไม่ได้แจ้งจับเด็ก ๆ ตนใช้สิทธิ์ตรงนี้ในฐานะนักกฎหมาย เพื่อให้เกิดการใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เหมือนเมื่อครั้งที่ตนไปเที่ยวถ้ำพระยานคร แล้วปรับ 500 บาท แล้วบอกว่าตนไปก่อความรำคาญ ส่งเสียงอื้ออึง

           วันนี้ที่ตนมาใช้สิทธิ์นั้น เพราะต้องการให้เป็นกรณีตัวอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้หมดแล้วทุกอย่าง ตนทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตนเตือนสติรัฐบาลว่า อย่าใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน การที่รัฐบาลเอาเงินภาษีประชาชนมาทุ่มให้กับเรื่องถ้ำหลวง เอางบประมาณแผ่นดินมาดูแลเด็ก 12 คน และโค้ช 1 คน และโค้ชก็เป็นคนต่างด้าวที่ไม่มีสัญชาติไทย การที่จะทำอะไร ต้องคิดถึงคนไทยทั้งประเทศ ยังมีคนอีก 50 ล้านคนที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวภัยมืด กลัวถูกพวกโลกสวยลาเวนเดอร์รุมถล่มตายคาโซเชียลเน็ตเวิร์ก


           ตนมีความห่วงใยน้อง ๆ อย่างตนก็มีแบนเนอร์ และบริจาคเงินช่วยจ่าแซม 65,000 บาท แต่ตนไม่อยากให้ยกย่องน้อง ๆ เป็นฮีโร่ จนเกิดพฤติกรรมเลียนแบบและเข้าใจผิดว่า การหนีพ่อแม่ไปเที่ยวถ้ำ เป็นเรื่องที่ถูก และโค้ชเอกที่บรรลุนิติภาวะแล้ว กลับพาเด็ก ๆ เข้าถ้ำไม่ขออนุญาต แถมพาเด็ก ๆ ว่ายน้ำไปที่เนินลับแล และไม่ออกจากถ้ำในเวลาที่กำหนด