แม่ของ "โจ้" อดีตผู้ต้องหาแทง "เต้" เสียชีวิต เผย วันพิพากษา ลูกชายโผรั้งแม่เต้คิดสั้นกระโดดตึกศาล และช็อกหนักเมื่อรู้ว่าเป็นฝ่ายพ่อที่ดิ่งศาลดับ กลับมาบ้านร้องให้เสียใจ ด้านโจ้ หลังพ้นคดี เตรียมบวชให้พ่อ
จากกรณีายณัฐพงษ์ เงินคีรี หรือโจ้ อดีตผู้ต้องหาคดีแทงนายธนิต ทัฬหสุนทร หรือ เต้ เสียชีวิต แถลงข่าวพร้อมกับแม่และแฟนสาว หลังถูกสังคมตั้งคำถามกรณีที่พ่อของผู้ตายกระโดดศาลอาญาเสียชีวิต ภายหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์ วอนสังคมฟังความจริงอีกมุม ยันไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลนั้น (อ่านข่าว : โจ้ เปิดใจหลังศาลยกฟ้องคดีแทง รับเครียดถูกสังคมตัดสินผิด ๆ ยันไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล)
ล่าสุด (27 กรกฎาคม 2561) อมรินทร์ ทีวี สอบถามไปยังแม่ของโจ้ เผยว่า วันเกิดเหตุลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้มาเป็นพยาน ตนและสามีจึงตามไปหาลูกที่ สน.ดินแดง โดยเจ้าหน้าที่บอกแค่ว่าจะสอบปากคำลูกชายในฐานะพยาน ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหาจึงกลับบ้านไป แต่พอกลับมาอีกรอบ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวลูกชายส่งศาลฝากขังแล้ว ทำให้ตนต้องเงินเพื่อนบ้านจำนวน 500,000 บาท เพื่อนำไปประกันตัวลูกชาย เมื่อออกมาจากศาลก็ไม่กล้าพาลูกกลับมาที่บ้าน เพราะเกรงจะมีเรื่องการล้างแค้น
จากการสอบถามลูกชาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเต้ คนเสียชีวิต มีอาการเมาและจะรังแกผู้หญิง ลูกชายจึงเตะไป 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงรายหนึ่งมาจับแยก ลูกชายจึงออกไปนั่งกินหมูกะทะที่บ้านเพื่อน ก่อนตำรวจจะมาจับ ลูกชายไม่รู้จักนายเต้มาก่อน และเพิ่งรู้ตอนที่เสียชีวิตแล้วว่าเรียนสถาบันคู่อริ ส่วนเบนซ์ ลูกชายก็ยืนยันว่าไม่รู้จักเช่นกัน
ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าลูกชายไม่ได้ก่อเหตุ
เพราะเจ้าตัวเป็นคนพูดความจริงกับพ่อแม่เสมอ
และตอนที่เจ้าหน้าที่นำตัวไปก็ไม่มีการตรวจดีเอ็นเอบนเสื้อผ้า
รวมถึงไม่ได้มีกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานว่าลูกชายตนเป็นคนลงมือ
แต่ตำรวจได้ยึดมีดที่เพื่อนของลูกชายซึ่งนั่งกินหมูกระทะด้วยกันไปด้วย
โดยมีดดังกล่าวใช้ตัดสายไฟเท่านั้น
ที่ผ่านมาครอบครัวของตนก็เครียด สามีซึ่งเป็นโรคหัวใจ เมื่อรู้ว่าลูกชายถูกจับตัว อาการก็ทรุดลงและเกิดอาการช็อก จนกลายเป็นอัมพาตทั้งตัว และก่อนจะไปศาลเพื่อฟังคำตัดสิน ลูกชายได้เข้ามากราบและบอกพ่อว่าจะไปศาล โดยมีความหวังว่าตัวเองจะบริสุทธิ์ และบอกพ่อว่า หากหลุดคดีก็จะบวชให้พ่อ
ส่วนประเด็นที่นายศุภชัย
ทัฬหสุนทร พ่อของนายเต้กระโดดตึกฆ่าตัวตายศาลอาญานั้น ลูกชายเล่าให้ฟังว่า
ช่วงที่ศาลอ่านคำพิพากษา
ลูกชายเห็นพ่อของนายเต้เดินออกไปจากห้องทั้งที่ศาลยังอ่านคำพิพากษาไม่จบ
และเมื่ออ่านจบแม่ของนายเต้ก็ตะโกนดังลั่นว่า ยกฟ้องทำไม
พร้อมทำท่าจะปีนหน้าต่างศาลเพื่อคิดสั้น
ซึ่งลูกชายกับนักโทษอีกรายที่อยู่ใกล้เคียงได้วิ่งไปจับไว้ไม่ให้กระโดด
พร้อมร้องไห้เสียใจที่อีกฝ่ายคิดสั้น
จากนั้นช่วงที่ลูกชายลงมาจากห้องพิจารณาคดีเพื่อจะกลับบ้าน ก็ได้ยินข่าวว่ามีคนกระโดดตึก ตอนนั้นลูกชายก็แปลกใจ เพราะคิดว่าช่วยแม่ของนายเต้ไว้ได้แล้ว กระทั่งมาทราบภายหลังว่า เป็นพ่อของนายเต้ที่กระโดดลงมา ทำให้ลูกชายช็อกมาก กลับมาที่บ้านก็ร้องไห้เสียใจ ซึ่งตนก็ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
ล่าสุด (27 กรกฎาคม 2561) อมรินทร์ ทีวี สอบถามไปยังแม่ของโจ้ เผยว่า วันเกิดเหตุลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้มาเป็นพยาน ตนและสามีจึงตามไปหาลูกที่ สน.ดินแดง โดยเจ้าหน้าที่บอกแค่ว่าจะสอบปากคำลูกชายในฐานะพยาน ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหาจึงกลับบ้านไป แต่พอกลับมาอีกรอบ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวลูกชายส่งศาลฝากขังแล้ว ทำให้ตนต้องเงินเพื่อนบ้านจำนวน 500,000 บาท เพื่อนำไปประกันตัวลูกชาย เมื่อออกมาจากศาลก็ไม่กล้าพาลูกกลับมาที่บ้าน เพราะเกรงจะมีเรื่องการล้างแค้น
ที่ผ่านมาครอบครัวของตนก็เครียด สามีซึ่งเป็นโรคหัวใจ เมื่อรู้ว่าลูกชายถูกจับตัว อาการก็ทรุดลงและเกิดอาการช็อก จนกลายเป็นอัมพาตทั้งตัว และก่อนจะไปศาลเพื่อฟังคำตัดสิน ลูกชายได้เข้ามากราบและบอกพ่อว่าจะไปศาล โดยมีความหวังว่าตัวเองจะบริสุทธิ์ และบอกพ่อว่า หากหลุดคดีก็จะบวชให้พ่อ
จากนั้นช่วงที่ลูกชายลงมาจากห้องพิจารณาคดีเพื่อจะกลับบ้าน ก็ได้ยินข่าวว่ามีคนกระโดดตึก ตอนนั้นลูกชายก็แปลกใจ เพราะคิดว่าช่วยแม่ของนายเต้ไว้ได้แล้ว กระทั่งมาทราบภายหลังว่า เป็นพ่อของนายเต้ที่กระโดดลงมา ทำให้ลูกชายช็อกมาก กลับมาที่บ้านก็ร้องไห้เสียใจ ซึ่งตนก็ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน